สาว ประเภทสอง วางยารูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวคูเวต 

วางยารูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวคูเวต  เมื่อวันที่ 24 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ลุมพินีได้รับแจ้งความจากทางนักท่องเที่ยวชายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศคูเวตว่าถูกสาวประเภทสองวางยารูดทรัพย์ด้วยเกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ 22:40 น. 

โดยนักท่องเที่ยวชายมีใบตรวจสุขภาพร่างกายซึ่งยืนยันได้ว่าถูกวางยานอนหลับดูผลตรวจน้ำมียานอนหลับอยู่ในกระแสเลือดและปัสสาวะนอกจากนี้ยังมีคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมที่พักของนักท่องเที่ยวชาวคูเวตเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีสาวประเภทสองเข้าไปในห้องพักของนักท่องเที่ยวชายคนดังกล่าวด้วย

         จากการให้ข้อมูลของนักท่องเที่ยวระบุว่าในวันเกิดเหตุนั้นได้มีสาวประเภทสองจำนวน 2 คนเข้ามาทำการตีสนิทหลังจากพูดคุยกันก็มีการชักชวนกันไปร่วมหลับนอนซึ่งนักท่องเที่ยวได้พาสาวประเภทสองทั้งสองคนมาที่โรงแรมที่พักของตนเอง

ซึ่งอยู่โรงแรมกัลลเวอร์ ทาเวิร์น ชั้น 4  หลังจากเข้ามาในห้องพักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มีการพูดคุยกันเล็กน้อยหลังจากนั้นก็มีการดื่มเครื่องดื่มซึ่งสาวประเภทสองเป็นคนนำเครื่องดื่มมาให้ดื่มและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันพอมีเพศสัมพันธ์เสร็จแล้ว

นักท่องเที่ยวรู้สึกเวียนศีรษะและไม่รู้สึกตัวอีกเลยตื่นขึ้นมาก็พบว่าเงินสดที่มีการนำติดตัวมาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวน 2แสนบาทหายออกไปจากห้องพักจึงได้มีการไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายหลังจากนั้นก็นำหลักฐานการตรวจร่างกายเข้าแจ้งความดำเนินคดี 

           จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งสามารถเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นรูปพรรณสัณฐานของสาวประเภทสองรวมถึงช่องทางการหลบหนีของสาวประเภทสองว่าเดินทางไปยังจุดไหนบ้าง  ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถควบคุมตัวสาวประเภทสองที่รูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวคูเวตได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยสามารถควบคุมตัวได้เมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2565 โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณอาคาร A Plus 1 พลัมคอนโดบางใหญ่ 

          สำหรับคนร้ายชื่อว่านายชฎาพร  และนาย ศิปาญ์  หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาที่  สน. ก็ได้มีการสอบสวนซึ่งคนละทั้งสองคนก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุวางยานักท่องเที่ยวชาวคูเวตและรูปทรัพย์สินจริงและเคยก่อเหตุมาแล้วประมาณถึง 3 ครั้งด้วยกันเคยถูกจับกุมและมีคดีอยู่หลายท้องที่  อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังประสานงานให้นักท่องเที่ยวชาวคูเวตเดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาว่าเป็นคนเดียวกันกับที่มีการรูดทรัพย์จริงหรือไม่เพื่อที่จะได้ส่งผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

            สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมากเพราะประเทศไทยพึ่งเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเมื่อมีเหตุการณ์รูดทรัพย์นักท่องเที่ยวเกิดขึ้น

นักท่องเที่ยวก็จะมีการนำไปพูดปากต่อปากให้กับคนในประเทศของตนเองหรืออาจจะมีการเปิดเผยเรื่องราวการถูกรูดทรัพย์ลงในโซเชียลมีเดียทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงและนักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะเกิดความหวาดกลัวและไม่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยก็เป็นไปได้

 

สนับสนุนโดย    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20