นางงามกับการเมือง

นางงามกับการเมือง จบลงไปแล้วกับกับการประกวด Miss universe 2019 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย

และได้เจ้าของตำแหน่งนางงามจักวาลคนล่าสุดได้แก่ สาวงามจากประเทศ South africa  Zozibini tunzi เป็นผู้ที่ครองครองตำแหน่งที่สูงสุดในค่ำคืนนั้น และตัวแทนสาวไทยของเราอย่าง ฟ้าใส ปวีสุดดา ดรูอิ้น แม้จะไม่ได้รับตำแหน่งอันสูงสุดแต่ว่าก็สามารถผ่านเข้ารอบ ไปสู่รอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งรอบนี้จะเป็นที่ต้องตอบคำถามจากวัดสติปัญญาของตัวนางงามแต่ล่ะประเทศ และตัวแทนสาวไทยก็ทำสุดเต็มความสามารถแล้ว แม้จะไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าสู่รอบ 3 คนสุดท้าย ถึงแม้การประกวดจะจบลงไปแล้วแต่ว่าแฟนๆนางงาม

ส่วนใหญ่ยังมีเรื่องที่ครางแคลงใจกับคำถามของตัวแทนสาวไทย ที่มุ่งคำถามมาในเรื่องของการเมืองอย่างโดยตรง ในช่วงที่ผ่านมานั้นทั่วโลกได้เกิดการประท้วงขึ้นในแต่ล่ะประเทศต่างๆทั่วโลก เกี่ยวกับการริดรอนสิทธิความเป็นอยู่ของคนในประเทศ ตัวอย่างเช่นการรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาประเทศฮ่องกงที่ออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยของรัฐบาลที่ว่ากันว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังจากประเทศจีนที่คอยจะเข้าครอบงำแทรกแซง การเป็นประชาธิปไตยของฮ่องกง และเรื่องดังกล่าวก็ได้ถูกยกนำไปเป็นคำถามบนเวทีนางงามจักรวาล ซึ่งคำถามเหล่าจะเป็นตัวสะท้อนทัศนคติของตัวผู้เข้าประกวดว่ามีความคิดเห็นอย่างไรก็การเมืองทั่วโลก และฟ้าใส ตัวแทนสาวไทยของเราก็เช่นกัน ที่โดนเกี่ยวกับเรื่องการเมืองโดยตรงซึ่งคำถามที่ตัวแทนสาวไทยไ

ด้รับนั่นเป็นเรื่องของ ความปลอดภัย กับ ความเป็นส่วนตัว ซึ่งในเนื้อหาของคำถามนั้นมีอยู่ คุณคิดเห็นอย่างหากรัฐบาลจะตั้งกฎออกมาเพื่อคอยส่องความปลอดภัยของประชาชน แต่ว่าเป็นการลุกล้ำความเป็นส่วนของคนในประเทศซึ่งคุณคิดว่า ระหว่างความปลอดภัยที่ใช้เป็นขออ้างในการเข้าถึงข้อของข้อมูลของประชาชน กับความเป็นส่วนตัวของประชาชนที่ทุกคนมีสิทธิที่พึ่งมี ดังนั้นแล้วคิดว่าระหว่างความปลอดภัย กับ ความเป็นส่วนตัว อะไรสำคัญกว่ากัน ซึ่งเป็นคำถามที่ค่อนให้ตัวแทนสาวไทยต้องเลือกระหว่างสองสิ่งที่สำคัญพอๆกัน

ซึ่งตัวแทนของสาวไทยก็ให้คำตอบที่เรียกได้ว่าเป็นกลางอย่างดีที่สุด โดยที่เราจะต้องปลอดภัยแต่เราจะต้องไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัวของจนเอง แม้คำตอบอาจจะเรียกได้ว่าก่ำกึงแต่ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดีอีกคำตอบนึง แต่แฟนนางงามหลายๆคิดว่าการที่ตัวแทนสาวไทยนั้น ไม่สามารถที่จะแสดงออกถึงทัศนคติทางการเมืองได้อย่างโดยตรงเพราะว่าบริบททางการเมืองของไทยเรานั้นยังไม่สามารถที่จะให้ประชาชนมีสิทธิในการวิจารย์รัฐบาลชุดนี้ได้อย่างเปิดเผย จึงกลายเป็นสาเหตุที่ว่าคำตอบของตัวแทนสาวไทยนั้นอาจจะไม่โดนใจของทางกรรมการได้ ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่นั้นก็มาจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเต็มตัว

ซึ่งประเทศเหล่านั้นสามรถออกความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างเปิดเผย และอีกอย่างการที่ไทยมีรัฐบาลที่เกิดจากความไม่ชอบมาพากลจนกลายเป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำให้การเลือกตัวสาวงามที่มาจากประเทศเป็นเผด็จการนั้นอาจจะไม่เป็นที่น่ายินดีนัก เนื่องจากเจ้าของเวทีและตัวเวทีเป็นของประเทศอเมริกาที่เป็นประชาธิปไตยต้นแบบ และค่อนข้างที่แอนตี้การเป็นระบบเผด็จการและระบบคอมมิวนิส เรื่องราวของคำถามของตัวแทนสาวไทยก็ยังคงเป็นที่วิพากย์วิจารย์กันอย่างหนักหลังที่จบการประกวดแล้ว จนมีบางคนออกมาพูดว่าตราบใดที่ประเทศไทยยัถูกปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการอยู่ประเทศไทยก็ไม่มีวันได้มงกุฏของนางงามจักรวาลอย่างแน่นอน