ปัญหาสิ่งแวดล้อม

ในปัจจุบันนี้ทุกคนคงจะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมในบ้านของเรานั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเพราะเมื่อมีประชากรเยอะขึ้นการใช้ยานพาหนะก็จะมากขึ้น

และควันจากรถยนต์ก็จะเพิ่มมากขึ้นจึงเกิดมลภาวะต่างๆในอากาศจนไปทำลายสภาพแวดล้อมที่ดีๆของบ้านเรานอกจากนั้นจะมีตามแม่น้ำลำคลองอีกที่ถูกโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียที่เกิดจากการทำสารเคมีต่างๆในโรงงานและไปมายังลำคลองจึงเกิดมลพิษในน้ำทำให้น้ำเน่าเสียและดำแถมยังเป็นแหล่งก่อเชื้อโรคและยุงอีกต่างหาก

เมื่อลมพีดมาจะตีกลิ่นน้ำเน่าเสียขึ้นมาลอยอยู่ในอากาศซึ่งเป็นเสียต่อประชากรมี่อยู่อาศัยอย่างมากเพราะว่าจะทำให้มีผลเสียต่อร่างกายและสภาพแวดล้อมรอบด้านอากาศบริสุทธิ์ก็จะถูกทำลายไปด้วยฉะนั้นเราควรดูแลให้ดีๆนอกจากนั้นเมื่อมีประชากรเยอะแหล่งอุตสาหกรรมก็จะเพิ่มขึ้นและจะชอบปล่อยควันพิษออกมาทางอากาศเมื่อมีแหล่งอุตสาหกรรมมากๆควันต่างๆจะรวมตัวกันเป็นฝุ่นลอยไปอยู่ในอากาศหรือเรียกกันว่า PM2.5 เกิดจากการรวมตัวของก๊าซ

หรือควันจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆซึ่งมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบันอย่างมากรวมถึงประชากรที่อยู่อาศัยด้วยจะเกิดผลกระทบที่ได้รับมาจากฝุ่นหรือควันและอากาศที่เป็นพิษในอากาศได้และอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้สภาพแวดล้อมเสียหรือเปลี่ยนแปลงไปนั่นคือควันไฟจากการเผาไหม้ของขยะหรือไฟป่าควัน

พวกนี้จะพัดพาไปอย่างง่ายดายและกระจาตัวกันอยู่ตามอากาศและจะปกคลุมอากาศที่บริสุทธิ์จะมีแต่อากาศที่เป็นมลพิษแทนรวมถึงสิ่งก่อสร้างอาคารต่างๆที่ทำมีฝุ่นฟุ้งถนนหนทางถ้าทำอย่างนั้นควรติดป้ายประกาศไว้ก่อนแต่เนิ่นๆเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความผิดพลาดได้แต่อย่างไรเราก็ได้รับผลเสียจากสิ่งเหล่านี้อยู่นี้ฉะนั้นเราควรหาวิธีที่จะป้องกันตัวเองออกจากปัญหาเห่านี้ให้ดีเพราะอากาศที่บริสุทธิ์ก็ถูกฝุ่นทำลายไปแล้วและยังส่งผลเสียตามการเดินทางผ่านยานพาหนะด้วยเพราะด้วยวุ่นที่มีจำนวนมากจึงจะกลายเป็นควันดำลอยขึ้นมาทำให้เรามองไม่ค่อยชัดเจนแต่อย่างไรการเซฟตัวเองดีที่สุด

เพราะเราไม่สามารถหลีกเลี้ยงสิ่งเหล่านี้ได้อยู่แล้วดังนั้นการดูแลตัวเองเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วเพราะในแต่ละวันเราจะต้องเจอมลภาวะอะไรบ้างดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำและเป็นผลดีที่เกิดขึ้นกับตัวเรามากที่สุดแล้วฉะนั้นอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นอีกหนึ่งช่องทางด้วยเพื่อสุขภาพร่างกายของเราที่ดีควรบำรุงรักษาตัวเองให้พ้นจากมลภาวะหรืออากาศที่เป็นพิษเพราะว่ามันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้หลายอย่างทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sexybaccarat

จุดเปลี่ยนสังคมเกาหลี

จุดเปลี่ยนสังคมเกาหลี หลังจากปี 1910 หลังจากที่ญี่ปุ่นเข้าไปครอบครองเกาหลีนั้น ญี่ปุ่นก็ได้มีการนำวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้นเข้าไปในเกาหลีด้วย ดังนั้นทำให้บางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่นในสมัยก่อนนั้นเกาหลีจะต้องมีการอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่อยู่กันสามสี่ช่วงอายุคนตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายลงมานั่นเอง 

แต่ในยุคหลังๆได้มีการเปลี่ยนไปไป โดยมีการแยกครอบครัวออกมาตั้งเป็นครอบครัวเดี่ยวได้แต่ว่าวัฒนธรรมเดิมๆนั้นของเกาหลียังคงอยู่เรื่อยมาจนมีการตั้งประเทศในปี1948 โดยวัฒนธรรมชายนั้นจะเป็นใหญ่โดยสมบูรณ์ คือผู้ชายสามารถไปเรียนได้ แต่ผู้หญิงนั้นต้องไปทำงานในโรงงานเมื่อแต่งงานผู้หญิงต้องย้ายเข้าบ้านผู้ชายและยังมีกฎเกณฑ์อีกว่าผู้ชายทำงานนอกบ้านส่วนงานในบ้านนั้นจะเป็นหน้าที่ของผู้หญิง เมื่อผู้ชายกลับมาบ้านแล้วนั้นผู้หญิงจะต้องถอดเสื้อให้ เอาน้ำชามาเสิร์ฟ งานในบ้านนั้นถือเป็นงานที่เข้มงวดถึงขนาดที่ว่า ผู้ชายนั้นจะไม่อุ้มลูกโดยถือว่าผู้หญิงเท่านั้นที่จะสามารถอุ้มลูกได้นั่นเอง เวลาขึ้นรถเมย์โดยปกติแล้วประเทศไทยจะเป็นการที่ผู้ชายจะต้องลุกให้ผู้หญิงแต่ในเกาหลีนั้นในสมัยก่อนนั้น ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายที่ลุกให้ผู้ชายนั่งอีกด้วย

โดยวีนักวิชาการคนไทยคนหนึ่งได้เคยไปเรียนที่ประเทศเกาหลีและได้เล่าว่า เมื่อสมัยที่ตนนั้นได้ไปเรียนที่ประเทศเกาหลีขณะที่ตนนั้นได้ขึ้นรถเมย์ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโบกมือเรียกให้ไปนั่งนั่นเอง แต่นี่เป็นวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นเมื่อ 30-40ปีที่แล้วนั่นเอง ผู้หญิงที่เรียนจบเท่ากันกับผู้ชายนั้นแต่เมื่อรับเงินเดือนผู้หญิงจะได้รับเงินเดือนเพียง 60%ของผู้ชายเท่านั้น ทำให้เกิดแรงกดดันจากสังคมภายในองค์กรว่าหากผู้หญิงคนไหนทำงานแล้วเกิดแต่งงานหรือเกิดการตั้งครรภ์ เค้าไม่สามารถทำทั้งสองอย่างได้ในคราวเดียว สังคมในที่ทำงานนั้นก็จะกดดันให้ผู้หญิงนั้นลาออกไปทำงานบ้านอย่างเดียว

จุดเปลี่ยนสามครั้งใหญ่คือการที่เมื่อเกาหลีเริ่มพัฒนาประเทศเป็นประเทศอุตสาหกรรม ผู้หญิงเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ผู้หญิงมีการทำงานมากขึ้น โดยประเทศก็จะต้องอาศัยทั้งมันสมองของผู้ชายและผู้หญิงนั่นเอง

การเปลี่ยนรัฐบาลทหารเป็นรัฐบาลพลเรือน กระแสประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นเช้ามาในเกาหลี ทำให้ความเท่าเทียมของทั้งผู้หญิงและผู้ชายเกิดการพูดถึงกันมากขึ้นประธานาธิบดีขณะนั้นเริ่มมีการให้ผู้หญิงมีบทบาทเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแล้วได้มีการจัดการกฎหมายให้มีกฎหมายที่ให้สิทธิ์กับผู้หญิงมากขึ้น

ทำให้ในปัจจุบันนี้จากการเปลี่ยนแปลงถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงมากเพราะทำให้มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกและแสดงความสามารถที่เท่าเทียมกับผู้ชายและทำให้ลดความเอาเปรียบจากผู้ชายได้ด้วย ถึงแม้เกาหลีในปัจจุบันยังคงมีการเอาเปรียบผู้หญิงอยู่บ้างแต่ด้วยกฎหมายที่เข้มงวดทำให้คนที่เอาเปรียบเหล่านั้นได้รับโทษอย่างสูงสุดแล้วนั่นเอง

สนับสนุนโดย   sexybaccarat