เจาะประเด็ดเกี่ยวกับสังคมทั่วไปทั้งในไทยและต่างประเทศ

หนุ่มจีนเศร้า แต่งงานมา 16 ปี เมื่อวันที่ 9 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565  มีการเปิดเผยเรื่องราวของชาวจีนคนหนึ่งวัย 45 ปี  ซึ่งเขานามสกุลเฉิน 

สำหรับเรื่องราว ของนายเฉินนั้น โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์และทางสื่อต่างๆของประเทศจีนเลยทีเดียว  เนื่องจากว่านายเฉินนั้นมีการติดต่อไปยังสื่อท้องถิ่นให้ช่วยเหลือทำข่าวติดตามหาตัวภรรยาของเขาซึ่งเขาไม่สามารถติดต่อภรรยาของเขาได้เลยนั่นเอง

         สำหรับเรื่องราวของนายเฉินนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาได้แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอยู่ด้วยกันมานานกว่า 16 ปีแล้วและทั้งคู่ก็มีลูกอยู่ด้วยกัน 3 คน เนื่องจากนายเฉินนั้นเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวจึงได้ออกจากบ้านไปทำงานที่ต่างจังหวัดนานๆจะกลับมาบ้านที   อย่างไรก็ตามเมื่อประมาณต้น ปี พ.ศ. 2565

  ภรรยาของเขาเริ่มมีพฤติกรรมที่แปลกไป เราไม่ยอม Video  Call คุยกับเขาและไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาเลย 

        เมื่อนายเฉิน เริ่มสงสัยในพฤติกรรมของภรรยาของตนเองจึงได้มีการติดตามภรรยาผ่านทาง GPS ที่เขาแอบลงไว้ที่โทรศัพท์มือถือจึงได้เห็นว่าภรรยาของเขานั้นเข้าโรงแรมไปกับผู้ชายคนหนึ่งหลังจากนั้นรุ่งเช้าจึงพากันเช็คเอ้า ออกจากโรงแรมซึ่งเขารอตั้งแต่ช่วงเวลากลางคืนจนถึงเช้าและเห็นภาพบาดตาบาดใจนั้นซึ่งเหตุการณ์ที่ภรรยาของเขานอกใจเขานั้นเกิดขึ้นงวดที่ 1 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565  

        อย่างไรก็ตามจากจุดเริ่มต้นนี้เอง ที่ทำให้นายเฉิน นั้นเริ่มเอะใจ   ดังนั้นนายเฉินจึงได้มีการตรวจดีเอ็นเอกับลูกสาวคนเล็ก

ซึ่งผลปรากฏว่าเขากับลูกสาวคนเล็กนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันใดๆทางสายเลือด   นอกจากนี้นายเฉินยังได้มีการตรวจดีเอ็นเอ กับลูกสาวที่เหลืออีก 2 คนอีกด้วยและผลปรากฏออกมาในลักษณะเดียวกันนั่นก็คือลูกสาวทั้งสามคนของเขานั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดของเขาแม้แต่คนเดียวทำให้เขานั้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก 

         อย่างไรก็ตามเมื่อนายเฉิน นำเรื่องนี้ไปสอบถามกับภรรยาของเขาปรากฏว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก  หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น  นายเฉินก็ติดต่อภรรยาของตนเองไม่ได้อีกเลย  ทำให้เขารู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก

  ดังนั้นเขาจึงได้มีการไปพึ่งสื่อท้องถิ่นเพื่อช่วยประกาศตามหาภรรยาของเขาซึ่งในขณะที่เขาเล่าเรื่องให้กับทางสื่อต่างๆฟังเขาก็ร้องไห้อยู่ตลอดเวลาสร้างความสะเทือนใจให้กับคนที่ได้ฟังเรื่องราวของนายเฉินเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

         อย่างไรก็ตามเรื่องราวของนายฉันนั้นเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมจีนเป็นอย่างมากซึ่งมองว่าภรรยาของนายฉันนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  และนายเฉิน ควรจะหย่าร้างกับภรรยารวมถึงฟ้องร้องดำเนินคดีกับภรรยาเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเนื่องจากว่าเธอนั้นมีชู้ซึ่งถือว่าเป็นความผิด 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ufabet เว็บตรง

คาร์ซีตขึ้นราคาเกือบ 2 เท่า  เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการที่  พรบ.จราจรทางบกได้มีการประกาศออกมาว่ารถทุกคันที่จะมีการพาเด็กออกไปนอกบ้าน

ซึ่งถ้าหากว่าเด็กอายุยังไม่ถึง 6 ขวบหรือมีความสูงต่ำกว่า 135 เซนติเมตรจะต้องมีการนั่งคาร์ซีทไม่สามารถนั่งเบาะบนรถได้ตามปกติซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็สามารถที่จะจับกุมและคิดเงินค่าปรับได้โดยค่าปรับสูงสุดอยู่ที่ 2,000 บาท

           อย่างไรก็ตามหลังจากมีการประกาศออกมาเพียงแค่ข้ามวันเท่านั้นปรากฏว่าราคาคาร์ซีตนั้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งคุณแม่ท่านนึงนั้นได้มีการโพสต์ข้อความเอาไว้เมื่อวันที่ 11 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565

ระบุข้อความเห็นด้วยกับการที่ทางพรบการจราจรทางบกได้มีการประกาศให้มีการบังคับใช้คาร์ซีทซึ่งคุณแม่รายนี้ ระบุว่าตนเองนั้นก็ใช้อยู่ซึ่งมีลูกอยู่ 2 คนเริ่มใช้คาร์ซีทตั้งแต่ลูกคนแรกซึ่งใช้ตั้งแต่แรกเกิดจนลูกอายุเกือบ 8 ปี

          อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าลูกคนที่ 2 ของคุณแม่รายนี้นั้นตัวใหญ่ขึ้นจึงมีแนวความคิดว่าอยากจะไปเปลี่ยนคาร์ซีทให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นโดยมีการเข้าไปดูราคาไว้ก่อนหน้านี้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้นพบว่าพื้นที่อยากได้ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับของพี่คนโตเคยซื้ออยากจากเดิมนั้น 5,400 บาทมีการปรับราคามาที่ 6,300 บาทอย่างไรก็ตามผ่านไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้นปรากฏว่าร้านเดิมยังเป็นรุ่นเดิมแต่ราคาจะเปลี่ยนไปเป็นราคาถึง 8900 บาทเลยทีเดียว  

        ทำให้คุณแม่รายนี้ต้องมาโพสต์เรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลือดูแลเรื่องของราคาคาร์ซีทเพราะมีการออกกฎหมายบังคับผู้ปกครองให้คนที่มีรถและมีลูกเล็กนั้น

ต้องใช้คาร์ซีททุกคนแต่กลับไม่ควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของราคาสินค้าทำให้เป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายมาให้กับผู้ปกครองของเด็กซึ่งผู้ปกครองบางคนนั้นมีลูกเล็กหลายคนจำเป็นที่จะต้องซื้อคาร์ซีตหลายอัน  และคาร์ซีตแต่ละอันนั้นก็ราคาแพงมากเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามวิธีการช่วยเหลือของรัฐบาลนั้นควรจะมีมาพร้อมกับแนวความคิดเกี่ยวกับกฎหมายข้อบังคับการใช้คาร์ซีทไม่ควรที่จะให้ผู้ปกครองของเด็กนั้นต้องได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบข้อบังคับที่ทางรัฐบาลหรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกกฎหมายบังคับใช้ 

          สำหรับการขึ้นราคาค่าซื้อของร้านค้าที่มีการขายนั้นเชื่อว่าร้านค้าเองก็หวังจะได้กำไรจากการขายสินค้าของตนเองเพราะก่อนหน้านี้คาร์ซีทนั้นขายได้ยากมากเนื่องจากว่าไม่มีกฎหมายบังคับใช้ซึ่งทำให้พ่อแม่หลายคนนั้นไม่ได้มีการใช้คาร์ซีทกับลูกของตนเองในการนั่งรถออกไปนอกบ้านถึงแม้ว่าจะรู้ว่าการนั่งคาร์ซีทจะปลอดภัยแต่หลังจากที่มีกฎหมายบังคับใช้นั้นพ่อค้าแม่ค้าก็ฉวยโอกาสขึ้นราคาสูงเวอร์มากจนเกินไปซึ่งล่าสุดนั้นราคาคาร์ซีตในแต่ละแบรนด์นั้นปรับเพิ่มราคาเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บตรง

       เด็กเช็ดกระจกรถวีนไม่พอใจ  ในเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ได้มีการเผยแพร่คลิปซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีการส่งให้กับแอดมินเพจเป็นการเผยแพร่ประสบการณ์ที่ได้เจอมา

ซึ่งแนะนำว่าหากใครไปแถวบริเวณแครายให้ระมัดระวังให้ดีโดยในคลิปนั้นจะเห็นได้ว่าเจ้าของคลิปได้มีการขับรถมาบนถนนรัตนาธิเบศร์เพื่อมุ่งหน้าไป 5 แยกปากเกร็ดและรถนั้นติดไฟแดงตรงแยกแครายปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีชายคนหนึ่งถืออุปกรณ์เช็ดกระจกรถเดินมาซึ่งทางเจ้าของรถเองก็ได้มีการโบกมือปฏิเสธแล้วแต่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่สนใจยังคงทำความสะอาดกระจกรถ

         หลังจากเช็ดเสร็จแล้วก็มาเคาะกระจกเพื่อทำการขอเงินซึ่งระหว่างนั้นเจ้าของรถเองอยู่ระหว่างการคุยโทรศัพท์และพยายามที่จะก้มหาเหรียญเพื่อให้เป็นค่าเช็ดกระจกแต่เนื่องจากอาจจะล่าช้าทำให้คนที่เช็ดกระจกนั้นไม่พอใจตะโกนด่าพร้อมกับมีการนำสิ่งสกปรกมาเทใส่บริเวณหน้ากระจกรถทางด้านเจ้าของรถจึงได้ตัดสินใจเปิดประตูลงจากรถ

เพื่อที่จะไปพูดคุยกับผู้ชายคนดังกล่าวปรากฏว่าทางด้านเด็กเช็ดกระจกรถได้มีการพูดจาข่มขู่พร้อมกับจะทำร้ายร่างกายและทำท่าเหมือนกับว่ามีอาวุธ  ทำให้เจ้าของรถเกิดความเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วล็อคประตูรถทันทีระหว่างนั้นก็มีการโทรแจ้งตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุ

          ซึ่งระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมานั้นปรากฏว่าชายคนดังกล่าวได้ไปขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้ววนกลับมาหาตนเองที่รถพร้อมกับพูดจาข่มขู่

และยังทำหน้าท้าทายชักชวนให้ขับรถตามไปอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นได้มีการบันทึกเอาไว้จากกล้องหน้ารถเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งหลังจากที่เด็กเช็ดกระจกรถไปแล้วเจ้าของรถจึงได้นำคลิปไปที่สถานีตำรวจ สภ. รัตนาธิเบศร์เพื่อแจ้งความดำเนินคดี  

              โดยเจ้าของคลิปต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุดเพราะถือว่าเป็นภัยคุกคามคนบนท้องถนนซึ่งถ้าหากว่าคนขับรถเป็นผู้หญิงหรือเป็นคนชราหรือแม้แต่เป็นคนที่อารมณ์ร้อนเหตุการณ์อาจจะไม่จบลงด้วยดีแบบนี้อาจจะมีเรื่องราวรุนแรงมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ดังนั้นทางด้านเจ้าของจึงอยากที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นตามคู่กรณีมาให้ได้เพราะไม่อยากให้ปล่อยปละละเลยและที่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นกับรถคันอื่นๆอีกนั่นเอง

        นอกจากนี้เจ้าของคลิปยังได้มีการโพสต์เพื่อเป็นการแชร์ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเส้นรัตนาธิเบศร์ให้ระมัดระวังอาจจะเจอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนที่เขาเจอก็เป็นไปได้ 

สนับสนุนโดย    ufabet บาคาร่า