ชายชราถูกชายไร้บ้านทำร้าย เหตุเพราะทวงมือถือที่ลืมไว้แล้วไม่ยอมให้

            กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์เมื่อมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอออกมาเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเราจะเห็นว่าในภาพนั้นจะมีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีขาวกำลังทำร้ายชายชราคนนึงอยู่ซึ่งในภาพจะเห็นว่าใช้เสื้อสีขาวนั้นทั้งเตะทั้งต่อยและถีบชายชราจนชายชราได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เมื่อมีการลงไปสอบถามยังพื้นที่เกิดเหตุก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งออกมายอมรับว่าชายชราที่อยู่ในคลิปวีดีโอนั้น

เป็นพ่อของตนเองโดยเขาเล่าว่าพ่อของเขาอายุมากแล้วประมาณ 67 ปีป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ซึ่งพ่อจะมีนิสัยชอบออกมาอยู่ตรงหน้าหอพักที่เกิดเหตุทั้งๆที่ตนเองก็มีบ้านอยู่แต่ทุกครั้งที่มาพากลับไปบ้านพ่อก็มักจะแอบหนีออกจากบ้านมาอยู่ที่หน้าหอพักนี้เป็นประจำจนเจ้าของหอพักอนุญาตให้พ่อมาอาศัยอยู่หน้าหอพักได้เพราะหลายคนคิดว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นสถานที่ที่พ่อมีความหลังอยู่

เพราะทุกครั้งที่พากลับบ้านพ่อก็จะต้องหนีออกมาอยู่ที่นี่ทุกครั้งซึ่งเมื่ออยู่ที่นี่พ่อของเขาจะมีอาชีพเก็บขยะเก็บขวดเอาไว้ขายโดยตัวลูกชายเองชื่อว่านายอ๋องบอกกับนักข่าวว่าเขาจะมาดูพ่อทุกวันโดยนำอาหารมาให้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นซึ่งหลังจากที่พ่อโดนทำร้ายเขาได้มาเห็นว่าพ่อเขาน่าตามปูดบวมจึงได้ขอกล้องวงจรปิดจากหน้าหอพักไปดูก็พบว่าพ่อถูกชายไม่รู้จักทำร้ายร่างกายเลยเขาบอกว่า

สำหรับคนเป็นลูกแล้วเมื่อเห็นพ่อตนเองถูกเตะต่อยย่อมเกิดความรู้สึกไม่พอใจและความแค้นเป็นธรรมดาซึ่งตัวเขาเองก็เหมือนกันเขาไม่สามารถดูคลิปวีดีโอจนจบได้กดชายคนดังกล่าวมากที่ทำร้ายพ่อของเขาซึ่งเป็นคนชราและเป็นโรคอัลไซเมอร์เขาจึงตามหาตัวชายเสื้อขาวคนดังกล่าวจนพบว่าเป็นชายเร่ร่อนที่ผ่านมาแถวนี้และเหตุการณ์วันนั้นชายเร่ร่อนได้เล่าให้ฟังว่าเขามานั่งเล่นอยู่บริเวณที่นั่งที่พ่อของเขาอยู่แล้ว

เผลอลืมโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้หลังจากนั้นได้กลับมาเอาแต่พ่อของนายอ๋องไม่ยอมคืนให้ทำให้ทำให้ชายเร่ร่อนไม่พอใจจึงได้ลงมือทำร้ายและแย่งโทรศัพท์คืนไปซึ่งนายอ๋องยอมรับกับนักข่าวว่าในตอนแรกนั้นเขาไม่พอใจชายเร่ร่อนคนดังกล่าวมากจึงได้มีการลงมือทำร้ายใช้ได้ร่อนคนเก่าคนนั้นไปด้วย

แต่หลังจากทราบเรื่องราวแล้วก็ได้มีการพูดคุยและขอโทษกันพร้อมทั้งซื้ออาหารให้ใช้ได้ร่อนคนดังกล่าวกินโดยนายอ๋องบอกกับนักข่าวว่าสาเหตุที่พ่อของนายอ๋องนั้นไม่ยอมคืนโทรศัพท์มือถือให้กับชายเร่ร่อน เขาคิดว่าพ่อของเขาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์น่าจะคิดว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของพ่อดังนั้นของทุกอย่างจึงเป็นของพ่อทั้งหมดทำให้พ่อของนายอ๋องจึงไม่ยอมคืนโทรศัพท์มือถือให้

       สำหรับใช้เลขอั้นที่ถูกนายอ๋องทำร้ายไปนั้นปัจจุบันนี้ก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลยซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเขาเดินทางไปที่อื่นแล้ว

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงไก่ชนไทย