การเปิดเทอมแต่ละโรงเรียนจึงควรไม่เหมือนกัน

ต้นทุนแตกต่างกัน  การเปิดเทอม 1/2563 แต่ละโรงเรียนจึงควรไม่เหมือนกัน  

        การเปิดการเรียนการสอนในช่วงโควิด-19 แต่ละโรงเรียนอาจจะต้องเรียนแตกต่างกันโดยนักวิชาการได้มีการเป็นห่วงในเรื่องของการเปิดเทอมของนักเรียนในช่วงที่จะมีการเปิดวันที่ 1 กรกฎาคมปีพศ. 2563  นี้ว่า เนื่องจากประเทศไทยมีโรงเรียนเป็นจำนวนมากทั้งโรงเรียนในส่วนของภาครัฐและโรงเรียนในส่วนของเอกชนซึ่งแต่ละโรงเรียนก็มีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของความพร้อมหากทางโรงเรียนต้องการที่จะให้มีการเปิดการเรียนการสอนแบบออนไลน์นั้น

มองว่าความพร้อมในการเรียนการสอนแบบนี้เหมาะกับโรงเรียนและผู้ปกครองที่มีการเรียนในโรงเรียนในลักษณะของโรงเรียนเอกชนมากกว่าไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสาธิตโรงเรียนนานาชาติกลุ่มโรงเรียนเหล่านี้คือกลุ่มโรงเรียนที่ผู้ปกครองมีความพร้อมที่จะ support ลูกของตนเองให้สามารถเรียนในรูปแบบของการเรียนออนไลน์ได้เนื่องจากมีทั้งคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ครวมถึงสัญญาณ WiFi อยู่ที่บ้าน

แต่ในขณะเดียวกันหากโรงเรียนเป็นโรงเรียนขนาดเล็กหรือขนาดกลางของรัฐบาลผู้ปกครองและนักเรียนเองยังไม่มีความพร้อมในด้านนี้โดยเฉพาะตัวผู้ปกครองเองที่หาเช้ากินค่ำจะไม่สามารถหาคอมพิวเตอร์และหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตมาให้ลูกเรียนออนไลน์ที่บ้านได้อย่างแน่นอนซึ่งตรงนี้จะเป็นความแตกต่างกันของเด็กนักเรียนเนื่องจากต้นทุนแต่ละครอบครัวมาไม่เหมือนกัน

งานนักวิชาการจึงมองว่าอาจจะต้องมีการเปิดเรียนในภาคเรียนที่ 1 จริงๆประจำปีพศ 2563 นี้การเปิดเรียนนั้นแต่ละโรงเรียนควรมีความแตกต่างกันออกไปซึ่งมองว่าในกลุ่มของภาคโรงเรียนเอกชนโรงเรียนสาธิตหรือแม้แต่โรงเรียนอินเตอร์กลุ่มเหล่านี้สามารถที่จะอนุญาตให้มีการเปิดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ได้ในขณะเดียวกันถ้าเป็นในเรื่องของโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งปกติก็จะมีจำนวนนักเรียนน้อยอยู่แล้วกลุ่มโรงเรียนเหล่านี้สามารถให้เด็กนักเรียนเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้แต่จะต้องมีการจัดห้องในเรื่องของการเรียนให้เหมาะสม

โดยอาจจะต้องมีการจัดตั้งโต๊ะเรียนให้ห่างกันเพื่อที่เด็กนักเรียนจะได้ใกล้ชิดกันเกินไปอีกครั้งนักวิชาการยังมองอีกว่าเด็กนักเรียนที่อยู่ชั้นเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับอุดมศึกษาปีที่ 3 เด็กนักเรียนกลุ่มนี้อาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะสามารถเรียนแบบออนไลน์ได้เนื่องจากว่าเด็กยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะสามารถนั่งเรียนอยู่กับที่เป็นเวลานานๆได้หรืออาจจะต้องมาดูความเหมาะสมว่าหากเด็กนักเรียนจะต้องนั่งต้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆนั้น

ไม่มีผลกระทบต่อสายตาของเด็กนักเรียนหรือไม่หรือจะมีผลกระทบในเรื่องของสมาธิการเรียนของเด็กหรือไม่ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการจะต้องมีการพิจารณาให้เหมาะสมแล้วค่อยมีการประกาศออกมาอีกครั้งหนึ่งว่าแต่ละโรงเรียนมันจะมีการเปิดการเรียนการสอนแบบไหนอย่างไรต่อไป

 

ได้รับการสนับสนุนมาจาก  SaGaming สมัครขั้นต่ำเท่าไหร่