มีชีวิตอย่างมีคุณภาพ

ชีวิตที่ดีมีคุณภาพนั้นสามารถสร้างได้ด้วยตัวเองและสามารถช่วยแบ่งปันให้คนรอบข้างด้วย คำว่าชีวิตดีมีคุณภาพไม่ใช่ชีวิตที่เพอร์เฟ็คแต่เป็นชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความพอดีและทำให้เรามีความสุขในทุกๆวันซึ่งชีวิตที่มีคุณภาพนั้นโดยส่วนใหญ่จะขึ้นขึ้นจากตัวเองก่อนหรืออาจจะเกิดขึ้นได้จาคนรอบข้างก็อตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเมื่อเรามีชีวิตอย่างมีคุณภาพแล้วนั้น

เราสามารถแบ่งปันเรื่องราวในการดพเนินชีวิตของเราได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คนในสังคมนั้นมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของตนเองด้วย เพราะเมื่อคนในสังคมหรือคนรอบข้างได้สัมผัสและรับรู้ได้ว่าชีวิตมีคุณภาพนั้นเป็นอย่างไรและมีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไรพวกเขาก็จะเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้

การมีความสุขทางใจและทางด้านร่ากาย สิ่งที่สำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีคือการมีความสุขทางใจ คือการมีจิตใจที่ผ่อนคลายไม่รู้สึกเป็นทุกข์ไม่มีสิ่งไหนมาทำให้เรานั้นต้องรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งความสุขทางใจนั้นก็สามารถทำได้โดยการปล่อยวางได้ถ้าหากเราผล่อวางในสิ่งต่างๆได้นั่นก็จะถือว่าเรานั้นจะสามารถเกิดความสุขทางใจได้แล้วนั่นเอง และที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือความสุขทางด้านร่างกาย เพราะถ้าหากเรามีร่างกายที่ดีแข็งแรงสมบูรณ์ไม่เจ็บไม่ป่วยนั่นก็หมายถึงว่าเรานั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้วนั่นเอง

ความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้าง มีความสัมพันธ์อันดี ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้างเราจะมีมิตรภาพลัสามารถแบ่งปันความสุขและสิ่งอื่นๆให้กันได้ด้วยถือเป็นสิ่งที่เป็นคุณภาพชีวิติย่างหนึ่งดังนั้นการสร้างมิตรและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไวนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรทำและปฏิบัติ

การทำกิจกรรมลการหากิจกรรมทำร่วมกับผู้อื่นบ้าง เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้างนั้นเอง เพราะการทำกิจกรรมก็จะช่วยเป็นการกระชับความสัมพันธ์อีกทางหนึ่งด้วย ทำให้เรารู้จักคนรอบข้างมากขึ้นและเราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ เพื่อเป็นสิ่งที่จะสามารถนำไปต่อยอดในการดำเนินชีวิตได้อีกด้วย

มีการพัฒนาตนเองทั้งด้านความรู้ บุคลิกภาพและสิ่งที่ตัวเองยังบกพร่องอยู่เสมอ คุณภาพชีวิตที่ดีนั้นอบ่างที่บอกว่าไม่ใช่ความเฟอเพ็คแต่เป็นการเมื่อรู้ว่าตัวเองบกพร่องหรือผิดพลาดในสิ่งใดจะต้องมีการพัฒนาและแก้ไขอยู่เสมอเพื่อให้ตัวเรานั้นสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีต่อคนรอบข้างรวมทั้งการเอาชนะตัวเองเพื่อฝึกตัวเอง ถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรที่จะทำให้ชีวิตนั้นมีคุณภาพอาจจเริ่มต้นจากการมองโลกในแง่ดีก่อนก็เป็นสิ่งที่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัครสมาชิก

นับวันคนไทยยิ่งอ่านหนังสือน้อยลง

เราจะสังเกตได้ว่าในปัจจุบันอัตราการอ่านหนังสือของเด็กไทยหรือของคนไทยนั้นมีอัตราการอ่านที่ลดน้อยลงมากจากเมื่อก่อน ซึ่งจะมีความแตกต่างจากคนต่างประเทศหรือคนประเทศอื่นๆ ลองสังเกตได้เลยว่าถ้าหากคุณนั้นได้ไปเที่ยยวที่ไหนสักแห่งที่เป็นประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทยโดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปนั้นจะเห็นได้เลยว่าคนต่างชาติพวกเขายังคงอ่านหนังสือกันแทบกันจะทุกคน

และเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมา เพราะพวกเขายังคงมีการพัฒนาตัวเองและสามารถช่วยพัฒนาประเทศชาติอยู่เสมอเพราะการอ่านหนังสือนั้นเป็นการหาความรู้ใหม่ๆหรือการทำความเข้าใจให้มากขึ้นในความรู้ที่มีอยู่นั่นเอง

ซึ่งเราก็อาจจะไม่ได้เหมารวมหรืเอาคนไทยนั้นไปเปรียบเทียบกับชาวต่างชาติทั้งหมด แต่สามารถพบได้ว่าการอ่านหนังสือของคนไทยนั้นมีอัตรที่น้อยมากเลยทีเดียว ซึ่งก็อาจจะสังเกตได้เลยว่าถ้าหากเรานั้นไปใช้บริการรถขนส่งสาธราณะหรือการไปในที่สาธารณะต่างๆก็จะเห็นได้เลยว่าคนไทยนั้นจะไม่ได้อ่านนังสือกันโดยส่วนใหญ่

ซึ่งจริงๆแล้วนั้นการที่เด็กหรือคนไทยนั้นไม่นิยมในการอ่านหนังสือซึ่งเรานั้นไม่สามารถที่จะโทษคนเหล่านั้นได้ ซึ่งเรื่องลักษณะนี้นั้นเป็นเรื่องของคนที่มีอำนาจ รัฐบาล เศรษฐกิจหรือเงินนั้นมันไปอยู่ตรงที่ไหน ยกตัวอย่างเช่นในต่างประเทศแถบยุโรปนั้นมักจะมีอนุสาวรีย์ที่เป็นอนุสาวรีย์

เพื่อเชิ่ดชูนักเขียนและก็มีสถานีรถไฟในยุโรปหลายแห่งที่มีการยกย้องนักเขียนอย่างยิ่งใหญ่ด้วยโดยจะตั้งชื่อต่างๆนั้นตามชื่อนักเขียนเลยนั่นเอง และภายในสถานที่หรือสถานีรถไฟนั้นก็มีการเชิดชูนักเขียนด้วยเพ้นส์ประดับไปด้วยสิ่งที่ปกบอกถึงตัวนักเขียนคนนั้นด้วย และที่พิเศษมากๆก็คือการสร้างสรรค์โดยการนำรูปในหนีงสือที่คนครนั้นเขียนนั้นเป็นฉากๆมาเพ้นส์ในจุดต่างๆของสถานีรถไฟด้วยนั่นเอง

ความยิ่งใหญ่ในการยกย่องนักเขียนยังไม่จบเพียงสถานีรถไฟเพียงเท่านั้นแต่ยังคงมีทั้งพิพิธพันธ์และสถานที่อื่นๆที่มีการกลาวถึงนักเขียนชื่อดังต่างๆด้วย ทำให้คนภายนอกนั้นเข้าไปดูและศึกษาประวัติของนักเขียนชื่อดังต่างๆ และนั่นถือเป็นการส่งเสริมทางด้านการอ่านอย่างหนึ่งของฝั่งยุโรปด้วยนั่นเอง

เพราะเมื่อเราได้ไปยังสถานที่ที่มีการเชิดชูนักเขียนทั้งการแสดงเรื่องราวที่นักเขียนคนนั้นส่อออกมาผ่านรูปภพข้อความ ทำให้คนที่ภ่พเห็นนั้นสนใจและอยากที่จะอ่านหนังสือที่นักเขียนคนนั้นเป็นคนแต่งนั่นเอง และนี่เป็นการสนับสนุทางด้านการอ่านของฝั่งยุโรป ซึ่งในประเทศไทยนั้นถือว่ามีนักเขียนเก่งๆจำนวนมากมาย ถ้าหากมีการทำเดียวกันนี้เชื่อว่าการอ่านหนังสือของคนไทยจะมีอัตราที่เพิ่มม่กขึ้นอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabet บนมือถือ

ความแตกต่างในเรื่องศาสนา

ศาสนาเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องมีติดตัวมาตั้งแต่เกิดซึ่งมาจากพ่อแม่และศาสนาเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนได้ ถ้าหากต้องการจะเปลี่ยนแต่ในการเปลี่ยนศาสนานั้นจะต้องมีความศรัทธาในศาสนานั้นๆก่อนถึงจะสามารถเปลี่ยนได้ เพราะถ้าหากเรานั้นไม่มีความศรัทธามนศาสนานั้นๆเราเปลี่ยนไปก็ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตแต่อย่างใด

ดังนั้นแล้วศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ซึ่งศาสนาแต่ละศาสนานั้นก็มีหลักธรรมคำสอนที่แตกต่างกันไปแต่ในทุกศาสนานั้นมักจะสอนให้เราเป็นคนดี ประพฤติดี เพื่อสิ่งที่ดีจะได้เข้าในในชีวิตขิงเรานั่นเอง ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราทำดีประพฤติดีเราจึงได้ผลตอบแทนดีดีในชีวิตนั่นเองซึ่งความแตกต่างของสาสนาก็มีอยู่หลายๆเรื่องด้วยกัน

การปฎิบัติตนตามศาสนา ในแต่ละศาสนานั้นจะมีการปฏิบัติตนที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการศึกษาธรรมของศาสนาแต่ละศาสนานั้นจะต้องใช้สถานที่ใดในการศึกษาธรรมเป็นหลัก เช่นศาสนาพุทธก็จะเน้นการเข้าวัดเป็นส่วนใหญ่ เพื่อทำบุญและประกอบพิธีการต่างๆทางศาสนา ส่วนศาสนาคริสต์ก็จะมีการไปทำกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆที่โบสถ์นั่นเองส่วนศาสนาอิสรามก็จะทำพิธีการทางศาสนาต่างๆที่สเหล่าหรือมัสยิดเป็นต้น ซึ่งการทำพิธีการแต่ละศาสนาก็แตกต่างกันไปตามหลักธรรมคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าด้วยนั่นเอง

การยึดถือหลักธรรมคำสอน แต่ละศาสนาก็มีหลักธรรมคำสอนที่มีความแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะให้คนเรานั้นยึดมั่นในความดีเป็นหลักและใช้ชีวิตในทางที่ถูกที่ต้องและยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนในพระเจ้าและพระผู้เป็นเจ้าเสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้วนั่นเอง ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะซึมซับในเรื่องนี้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะศานาอิสลามถือว่าเป็นศานาที่มีความเคร่งในเรื่องหลักธรรมคำสอนอย่างมากและผู้ที่นับถือศาสนานี้นั้นก็มีการปฏิบัติหลักธรรมคำสอนอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน

การแต่งกาย การแต่งกายก็เป็นความแตกต่างที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน โดยเฉพาะในศาสนาอิสลามถือว่าการแต่งกายนั้นจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างมากในคนที่นับถือศาสนานี้โดยส่วนใหญ่ผู้ชายก็จะต้องมีการใส่หมวกและผู้หญิงก็จะสวมใส่ฮิญาบหรือผ้าที่มีการปิดช่วงศีรษะและเห็นแค่หน้าเพียงเท่านั้น

ซึ่งคนในศาสนาอิสลามนั้นจะมีการแต่งกายตามศาสนาอย่างเคร่งครัดที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ศาสนาอื่นๆนั้นอย่างเช่นศาสนาพุทธและศาสนาคริสในเรื่องการแต่งกายของคนทั่วไปก็ไม่ได้มีสิ่งที่ระบุไว้ในคัมภีร์หรือหลักธรรมคำสอนว่าจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอย่างไรแต่น่าจะเป็นการอต่งกายที่เหมาะสมและสุภาพก็เพียงพอแล้ว

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัครยังไง

การทำงานอย่างมีความสุข

ในช่วงชีวิตการทำงานของหลายๆคนนั้นบอกเลยว่าช่างเป็นช่วงชีวิตที่ไม่มีความสุขเอาสะเลย เพราะการทำงานนั้นนอกจากเราจะต้องเหนื่อยหน่ายกับงานที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกๆวันบางครั้งเราก็จะต้องเหนื่อยหน่ายกับคนที่ต้องพบเจอในทุกวันด้วยเช่นกัน ทำให้การทำงานนั้นเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นและทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขในการทำงานนั่นเอง ดังนั้นแล้วถ้าหากเราลองทำสิ่งเหล่านี้ดูนั้นอาจจะสามารถช่วยลดความเบื่อหน่ายในการทำงานและสามารถสร้างความสุขในที่ทำงานได้ด้วย

เริ่มต้นจากการเลิกคิดเล็กคิดน้อยในเรื่องต่างๆ ในการทำงานนั้นแน่นอนว่ามักจะเกิดปัญหาในการทำงานเป็นเรื่องที่ปกติ ดังนั้นแล้วเราไม่ควรที่จะเก็บเรื่องราวต่างๆในที่ทำงานมาคิดมาก เราเพียงแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดให้คนอื่นไม่สามารถมาว่าหรือตำหนิเราได้ก็เพียงพอแล้ว เมื่อเสร็จจากที่ทำงานหรือเลิกงานเราก็ไม่ต้องเก็บเรื่องราวที่ทำงานมาคิดต่อเมื่อหลังเลิกงานด้วยนั่นเอง เพราะการคิดเป็นการคิดที่วนไวนมาก็จะทำให้เรานั้นไม่มีความสุขและคิดทุกเช้าว่าวันนี้เราจะต้องไปทำงานอีกแล้วใช่ไหมนั่นเอง

อย่าต่อว่าองค์กรไปในทางที่ไม่ดี  การที่เราได้ทำงานในองค์กรนี้ได้นั้นเราต้องคิดอยู่เสมอว่าคนในองค์เป็นผู้ที่ให้โอกาสเราในการได้ทำงานและองค์ที่เราอยู่นั้นก็ได้ให้ประสบการณ์และความรู้ต่างๆแก่เรา ดังนั้นแล้วไม่ว่าภายในองค์กรจะดีหรือไม่ดีสำหรับเรานั้นเป็นสิ่งที่เราควรคิดไว้ในใจก็พอและไม่ควรเอาเรื่องที่เราคิดว่าไมดีนั้นไปบอกต่อยังคนนอกองค์กร เพราะการกระทำเช่นนี้นั้นเป็นเหมือนว่าเรากำลังทรยศองค์กรที่ให้งานและประสบการเรานั่นเอง

บางครั้งการเลือกงานที่รักเป็นเรื่องที่ดีก็จริงแต่การจะทำงานได้อย่างมีความสุขได้นั้นควรเลือกงานที่ทำ เพราะเราจะได้รู้หน้าที่ทำเองและไม่ทำงานแค่เพียงเพราะว่าอยากจะทำ การเลือกทำแต่งานที่ตัวเองอยากทำนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นไม่มีความสุขในที่ทำงานนั่นเอง แน่นอนว่าการทำงานเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ดังนั้นแล้วคิดเพียงว่างานที่เราทำนั้นเป็นงานที่ต้องทำและเป็นหน้าที่ของเราและเราจะต้องทำมันออกมาให้ได้อย่างดีที่สุดด้วย

ไม่พูดถึงคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมงานในทางเสื่มอเสีย ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงานในทางที่เสื่อสี เป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นไม่มีความสุขในที่ทำงานเพราะถ้าหากมีการรับรู้ว่าเรานั้นพูดถึงคนคนนั้นในทางที่ไม่ดีแน่นอนว่าจะเกิดปัญหามนที่ทำงานอย่างแน่นอนและทำให้เราไม่มีความสุขที่จะทำงานนั่นเอง ดังนั้นแล้วถ้าหากสามารถเลิกทำสิ่งเหล่านี้ได้ เชื่อว่าเราจะพบกับความสุขในที่ทำงานอย่างแน่นอน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    สมัครเอเย่นต์ ufabet