ย้ายประเทศคนรุ่นใหม่อยากมีฝัน

ซึ่งสิ่งที่เราต้องการในตอนนี้คืออะไร นโยบายแบบยั่งยืน ที่มันจะสามารถลงไปถึงการพัฒนา “ โครงสร้างพื้นฐานของชีวิต “ เมื่อเรามีโครงสร้างพื้นฐานของชีวิตในด้านต่างๆแล้วมันจะเหมือนกับเรามี Safty Net หรือว่าเป็น ตาข่ายนิรภัย ที่จะทำให้คนไทย พอถึงสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้จริงๆเราไม่จำเป็นที่จะต้องตกทุกข์ได้ยากเหมือนกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้แต่เพราะเราไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่ว่านั้นแหละ

สถานการณ์มันก็เลยย่ำแย่แบบนี้วันนี้เราจะพาไปดูตัวอย่างหลายๆประเทศที่เขาทำหลายๆเรื่องได้สำเร็จแล้วและกลายเป็นพื้นฐานไปแล้วด้วยอย่างเรื่องแรกเลยก็คือ  “ การเข้าถึงการศึกษาฟรี “ ปัญหาการศึกษาไทยไม่ต้องพูดถึงกันแล้วเราเห็นทุกอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะยุคนี้ทุกอย่างใต้พรมถูกขุดขึ้นมาเรียบร้อยแล้วมาดูที่ เยอรมนี เยอรมนีเป็นประเทศที่มีการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่แปลกไม่เหมือนใครแปลกในที่นี้ก็คือ ฟรี ฟรีถึงขั้นที่ว่าไม่ได้ฟรีสำหรับพลเมืองชาวเยอรมนีเท่านั้นแต่ฟรีสำหรับเราสำหรับทุกๆคนและใครก็แล้วแต่ที่สามารถเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่เยอรมนีได้ด้วยไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องเป็นพลเมืองของเยอรมนี

นอกจากนี้อย่างไรก็ตามในการศึกษาที่ดีมากๆอยู่แล้วมันแวดล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานสถาปัตยกรรมแหล่งท่องเที่ยวที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี หลายๆสิ่งหลายๆอย่างเป็นสิ่งที่เย้ายวนใจมากๆให้นักเรียนนักศึกษาคนทั่วไปต้องการที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนี By Chloe Laneเขาได้พูดเอาไว้อย่างหนึ่งว่าที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในทางงการศึกษาที่เป็นหนึ่งในท็อปฟอร์มของโลก

ซึ่งในปีนึงได้มีนักเรียนจากต่างชาติที่เดินทางไปเรียนที่เยอรมนีประมาณ350,000 – 360,000 คนถือว่าเป็นจำนวนคนที่เยอะมากๆ เมื่อเทียบอัตราค่าใช้จ่ายที่เขาไม่ต้องเสียค่าเทอมระดับอุดมศึกษาที่ว่าถ้าคุณไปเรียนในมหาลัยรัฐบาลเรื่องนี้มันมีอยู่จริง

สิ่งเดี่ยวที่คุณจะต้องจ่ายก็คือค่าลงทะเบียนค่าฟรีต่างๆเล็กๆน้อยๆซึ่งมันเป็นแค่หลักพันบาทเท่านั้นเองสมมุติว่าคุณไปเรียนที่อังกฤษหรืออเมริกาเตีรยมเงินเอาไว้เลยหลักล้านล้านบาทอันนี้เป็นค่าเรียนเท่านั้นยังไม่รวมค่าใช้ชีวิตด้วยแต่ค่าเรียนที่นี่พอมันตัดออกไป

ค่าครองชีพมันกลายเป็นสิ่งเดียวที่เราจะต้องรับผิดชอบที่นี้นอกจากการจ่ายฟรีแล้วมหาวิทยาลัยของรัฐบาลให้ตัดภาพรัฐบาลไทยออกไปก่อนเพราะว่ามันไม่เหมือนกันมหาวิทยาลัยของเยอรมนีค่อนข้างที่จะมีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกันมากๆและไม่ได้ใกล้เคียงกันในระดับดีเท่านั้น

โยเขาได้มีการจัดอันดับติดอันดับโลกอย่างต่อเนื่องสิ่งที่เขาเน้นมากๆเลยก็คือเรื่องหลีกสูตรการศึกษาที่มีความโด่งเด่นมากและงานวิจัยที่น่าเชื่อถืออย่าโด่งเด่นอีกด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ทดลองเล่นสล็อต gclub

เรียนออนไลน์เหมาะกับทุกคนจริงหรือ ? 

            นับตั้งแต่กลางปีพ.ศ.2563 ที่ผ่านมาสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยนั้นมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้หน่วยงานของ สบค . ที่ดูแลการจัดการเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19  ต้องประสานงานกับ กระทรวงศึกษาธิการสั่งเลื่อนการเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่วประเทศเพื่อป้องกันเด็กนักเรียนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นเอง

     อย่างที่เรารู้กันดีว่าสถาบันการศึกษานั้นเป็นสถานที่ที่รวมเด็กเป็นจำนวนมากอยู่ด้วยกันและด้วยความเป็นเด็กการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  นั้นจะมีน้อยกว่าผู้ใหญ่ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงหากปล่อยให้เด็กไปโรงเรียนในขณะที่ยังไม่สามารถที่จะควบคุมการระบาดของไวรัสได้ทางที่ดีที่สุดกระทรวงศึกษาธิการจึงจำเป็นที่จะต้องให้โรงเรียนต่างๆเรื่องการเปิดการเรียนการสอนไปก่อนโดยหันมาใช้วิธีการเรียนผ่านระบบออนไลน์ซึ่งปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก 

       อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มมีการเปิดประกาศให้มีการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ปรากฏว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้กันหนักมากแน่นอนว่าสำหรับคนที่มีเงินพอที่จะมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือระบบสมาร์ทโฟนรวมถึงมีเงินจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตนั้นสามารถที่จะดูแลบุตรหลานของตนเองได้แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มคนอีกเกือบครึ่งค่อนประเทศที่ไม่ได้มีเงินร่ำรวยเงินทองมากพอที่จะซื้ออุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ยังมีผู้ปกครองที่หาเช้ากินค่ำและกลุ่มคนที่อยู่ต่างจังหวัดที่ไฟฟ้าอาจจะยังเข้าไม่ถึงที่ต้องผจญกับปัญหาไม่สามารถที่จะเตรียมอุปกรณ์ในการเรียนออนไลน์ให้กับบุตรหลานของตนเองได้

            ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขปัญหาสถานที่ที่เน็ตเข้าไม่ถึงแต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้หรือบ้านยากจนไม่มีโทรทัศน์ดูซึ่งแน่นอนว่าการเรียนออนไลน์ผ่านทางโทรทัศน์นั้นถ้าไม่มีโทรทัศน์ดูก็ไม่สามารถเรียนได้เช่นเดียวกันนี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเรียนออนไลน์ทั่วประเทศดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการเรียนออนไลน์ไม่ได้เหมาะกับประชาชนทุกคนเพราะแต่ละคนนั้นมีภาระที่แตกต่างกันออกไปและมีความสามารถในการรับผิดชอบในการซื้ออุปกรณ์ดูแลบุตรหลานของตนเองนั้นแตกต่างเช่นเดียวกัน

      จะเห็นได้ว่าตามข่าวสารที่เริ่มมีการประกาศให้เรียนออนไลน์ผู้คนต้องเก็บเงินเพื่อพาลูกหลานตนเองนั้นไปซื้อสมาร์ทโฟนในราคาที่ประหยัดอย่างต่ำก็อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะต้องเสียค่าโทรศัพท์มือถือแล้วยังต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ตอีกต่างหากโดยถ้าซื้อเป็นแบบรายเดือนขั้นต่ำก็อยู่ที่ประมาณเกือบ 500 กว่าบาทหรือถ้าเกิดว่าซื้ออินเทอร์เน็ตที่คู่มากับเบอร์มือถือก็จะต้องขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่เลือกเห็นได้ชัดว่าวิธีการนี้เป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนนั่นเอง 

       และนี่คือปัญหาหลักที่ทางด้านกระทรวงศึกษาธิการควรจะต้องลงมาศึกษาแนวทางวิธีการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเปิดการเรียนการสอนว่าจะสามารถทำวิธีการไหนได้บ้างที่จะทำให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างทั่วถึงและไม่เกิดการเหลื่อมล้ำกัน 

     

สนับสนุนโดย    เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลอง

สช.ให้โรงเรียนเอกชนคืนค่าธรรมเนียม บางส่วนให้กับผู้ปกครอง

 สช. ให้โรงเรียนเอกชนคืนค่าธรรมเนียม บางส่วนให้กับผู้ปกครองหลังจากมีการจัดเรียน ออนไลน์ 

         เมื่อวันที่ 21 เดือนมกราคมปีพศ 2564     ทางด้านกรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน  ได้มีการติดต่อประสานงานไปยังโรงเรียนเอกชนต่างๆทั่วประเทศเกี่ยวกับเรื่องของการจัดการเรียนให้กับเหล่าบรรดานักเรียนในช่วงของการปิดการเรียนการสอนซึ่งมีผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทางด้าน สช. ได้มาทำความเข้าใจกับโรงเรียนเอกชนเกี่ยวกับเรื่องของการเรียกเก็บค่าเทอม

         ซึ่งในนั้นจะมีค่าบริการเสริมต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าทัศนศึกษาหรือค่าอาหารกลางวันรวมถึงค่ารถโรงเรียนที่ทางผู้ปกครองจะต้องจ่ายให้กับทางโรงเรียนเอกชนหากมีการใช้งานซึ่งหลังจากที่มีการเปิดการเรียนออนไลน์ในช่วงปิดเรียนทำให้ทางโรงเรียนเอกชนจำเป็นที่จะต้องมีการคืนเงินในส่วนต่างๆเหล่านั้นให้กับผู้ปกครองถ้าหากว่าผู้ปกครองนั้นมาทำเรื่องขอคืนเงินค่าธรรมเนียมเหล่านี้ 

        อย่างไรก็ตาม ทางด้าน สช. ได้ออกมาพูดถึงเรื่องของการที่ผู้ปกครองได้ทำการร้องเรียนว่าทางโรงเรียนนั้นได้มีการเก็บค่าเรียนปกติหลังจากที่ทางโรงเรียนนั้นมีการเปิดให้เรียนออนไลน์ซึ่งระหว่างที่มีการเรียนออนไลน์นั้นผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเพราะจะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์การเรียนและยังต้องมานั่งเฝ้าเด็กนักเรียนในช่วงเวลาเรียนรวมถึงระหว่างที่เรียนผู้ปกครองสังเกตเห็นละว่าการสอนนั้นยังไม่ได้มีมาตรฐานเท่าที่ควรที่สำคัญผู้ปกครองยังต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างๆให้กับโรงเรียนเหมือนกับไปเรียนที่โรงเรียนปกติซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าด้วยการร้องเรียนในครั้งนี้นั้นมีผู้ปกครองเป็นจำนวนมากที่มีการติดต่อร้องเรียนเข้าไปทั้งประเภทโรงเรียนนานาชาติและประเภทโรงเรียนสามัญ

             ดังนั้นจึงมีการประกาศออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่วันที่ 2 เดือนมกราคมพศ 2564 ว่าการที่ทางกระทรวงมีการสั่งประกาศให้ขยายการปิดเทอมออกไปก่อนเพราะสถานการณ์ของการระบาดไวรัสโควิตนั้นไม่ได้มีการบังคับให้ทางโรงเรียนนั้นเปิดการสอนแบบออนไลน์และการที่ทางโรงเรียนเปิดสอนและมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆทั้งที่ไม่ได้มีการใช้งานจริงนั้นควรจะต้องมีการชดเชยคืนค่าโรงเรียนเหล่านั้นให้กับทางผู้ปกครองของเด็กนักเรียน

          ที่สำคัญสำหรับในเรื่องของการเรียนออนไลน์นั้นทางกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้มีการบังคับดังนั้นถ้าหากโรงเรียนไม่สะดวกก็สามารถที่จะเรียนชดเชยให้กับเด็กนักเรียนภายหลังได้หลังจากที่มีการเปิดสอนตามปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   สำหรับค่าธรรมเนียมที่ทางโรงเรียนเอกชนจะต้องมีการทำเรื่องคืนให้กับผู้ปกครองนั้นจะมีเป็นพวกค่าอาหารกลางวันและค่าขนมรวมถึงค่ารถรับส่งของโรงเรียนและค่าเรียนเสริมพิเศษเช่นค่าเรียนกีฬาหรือศิลปะและดนตรีค่านมโรงเรียนถ้าหากโรงเรียนมีการจัดเก็บค่าเรียนว่ายน้ำและค่าเรียนเสริมวิชาการและคอมพิวเตอร์ต่างๆรวมถึงถ้าหากโรงเรียนไหนมีการเรียกเก็บค่าทัศนศึกษาก็ควรจะต้องมีการคืนผู้ปกครองด้วย 

 

 

สนับสนุนโดย    เว็บบาคาร่า sa ขั้นต่ำ 5 บาท