ห้าเรื่องที่ไม่ควรเอาชีวิตไปพัวพัน

ปีใหม่แล้ว ก็อยากให้ทุกคนเจอแต่สิ่งดีๆ ในทุกๆเรื่อง อะไรเมื่อปีที่แล้วที่เคยผิดพลาดไปก็จำไว้เป็นบทเรียน เพราะในชีวิตของเรานั้น ต้องเจอเรื่องราวมากมาย มีทั้งสุขและเศร้าปนเปกันไป แต่อย่างไรหากมันจะเกิดอะไรก็ขอให้เป็นการกระทำของตัวเอง เพราะว่าถ้ามันเกิดเพราะเป็นเรื่องของคนอื่นเราก็จะรู้สึกแย่เป็นสองเท่า ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร เราไม่ควรไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้เด็ดขาด

  1. เรื่องเงินๆ ทองๆ เพราะเป็นเรื่องที่เราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว เพราะว่าเงินใครเงินมัน เราก็ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย เหมือนคำกล่าวของสุภาษิตที่ว่า เงินทองไม่เข้าใครออกใคร มันทำลายมิตรภาพทำลายชีวิตกันมามากแล้ว ดังนั้นเรื่องเงินทองจงอย่าได้เอามาเกี่ยวข้องกันเลย
  2. ค้าประกัน เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะเสียเพื่อนและเสียครอบครัวกันมาแล้วนับไม่ถ้วน เพราะไอ้การค้ำประกันนี่แหละ จะให้ไว้ใจกันมากแค่ไหน ก็ไม่ควรยื่นมือไปเกี่ยวข้อง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นตัดไฟตั้งแต่ต้นลมจะดีเสียกว่า ที่จะมาแก้ไขกันในภายหลัง มันจะไม่ทันการ
  3. การกู้ยืม ก็ยังคงไม่พ้นเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ซึ่งทั้งสองข้อข้างต้น ก็เป็นเรื่องเงิน อันนี้ก็ยังคงเป็นฯเรื่องเงิน อย่าลืมว่าลูกหนี้ที่ดีก็มี แต่ลูกหนี้แย่ๆ ก็เยอะ วันนี้ให้ยืมครั้งหนึ่ง พรุ่งนี้ก็ต้องมีครั้งที่สองและสามตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นหากไม่อยากสูญเสียความสัมพันธ์ก็อย่าให้ยืมตั้งแต่ต้นจะดีกว่า
  4. เรืองของผัวๆเมียๆ เคยได้ยินคำนี้ไหมว่า คนนอนคุยกับคนยืนคุยมันไม่เหมือนกัน เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แม้แต่เราเองยังทะเลาะกับเมีย ขัดใจกันได้เรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ดีกัน ดังนั้น ก็คงไม่ต่างอะไรกับคู่ของคนอื่นที่วันนี้เค้าทะเลาะกัน แต่เราดันเข้าไปยุ่งเกี่ยว และสุดท้ายเมื่อเค้าดีกัน เราก็อาจจะกลายเป็นหมาก็ได้นะ
  5. ความลับของคนอื่น ชื่อก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเรื่องของความลับ แถมยังมีต่อท้ายด้วยว่าความลับของคนอื่น ดังนั้นเหมือนไพ่ป๊อกสองเด้ง ไม่ว่าจะมองไปทางซ้ายหรือไปทางขวา ก็ไม่เหมาะสมที่จะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเลยสักนิด เพราะถ้าหากมันรั่วไหลไปเราเองก็จะอาจโดนไปด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่ปล่อยให้ความลับนั้นหลุดไปก็ตาม แต่ก็เหมือนยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปมีส่วนพัวพันแล้ว ดังนั้น เซฟทั้งเรา และเซฟทั้งเจ้าของความลับ ขอเป็นไม่รู้เรื่องความลับของใครจะเป็นการดีที่สุด เพราะจะได้ไม่เจ็บตัวในภายหน้านั้นเอง

 

 

สนับสนุนโดย    ae บาคาร่า

เด็กอายุ 17 ปีถูกลุงคุกคามจะเอาไปเป็นเมีย บอกรักหลานมานานตั้งแต่ 3 ขวบ

         ในโลกออนไลน์ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ขอความช่วยเหลือกับชาวโซเชียลด้วยอยากจะให้ช่วยกันแชร์ข้อความของเธอนั้นให้เป็นข่าวดังเพื่อที่จะได้มีผู้ใหญ่หรือคนที่สามารถที่จะช่วยเหลือครอบครัวเราได้ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเธอซึ่งเธอบอกว่าเธอและคนในครอบครัวของเธอเดือดร้อนมาก

ในขณะนี้สำหรับข้อความที่เธอขอความช่วยเหลือคนในโลกออนไลน์ให้ช่วยๆแชร์นั้นเธอได้มีการเล่าว่าเธอมีน้องสาวอยู่คนหนึ่งซึ่งน้องสาวของเธอนั้นขณะนี้อายุ 17 ปีกำลังเป็นเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งโดยเธอมีการระบุว่าบ้านของเธอนั้นมีกันอยู่ 3 คน

ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมดซึ่งมีตัวเธอมีน้องสาวของเธอและมีแม่ส่วนสาเหตุที่เธอต้องขอความช่วยเหลือนั้นก็เพราะว่าน้องสาวของเธอกำลังถูกคุกคามจากคุณลุงซึ่งเป็นสามีของป้าแท้ๆของพวกเธอเองโดยผู้ชายคนดังกล่าวนั้นเคยเป็นอดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่แต่ต่อมาเกษียณแล้ว

แต่ปัญหานั้นก็คือชายคนนี้ ได้พยายามส่งข้อความผ่านทาง facebook มาหาน้องสาวของเธออยู่เป็นประจำเป็นลักษณะของการบอกรักและอยากจะได้ไปเป็นเมียซึ่งช่วงหลังๆนั้นชายคนดังกล่าวเริ่มลุกอย่างหนักด้วยการเดินทางจากกรุงเทพฯมาหาน้องสาวของตนเองที่ต่างจังหวัดอีกทั้งยังบอกด้วยว่าหลงรักน้องสาวของเธอมานานแล้วตั้งแต่น้องสาวของเธอนั้นอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้นซึ่งถ้าหากใครได้ไปเห็นข้อความของชายคนดังกล่าวนั้นจะรู้ว่าเขาเฝ้าพยายามเขียนข้อความบอกรักเด็กสาววัย 17 ปี

อีกทั้งยังบอกด้วยว่าหญิงสาวไม่รับรักก็ให้เขียนบอกผ่านทาง facebook มาด้วยว่ามีแฟนแล้วอย่างไรก็ตามพี่สาวของเด็กสาวอายุ 17 ปีเล่าว่าที่บ้านของเธอนั้นได้มีการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาดำเนินการกับชายคนดังกล่าวแต่ใช้คนดังกล่าวนั้นได้เอายศทหารข่มขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทั้งยังเคยถูกครอบครัวของเธอด้วยว่าจะฆ่าคนในครอบครัวของเธอทำให้พวกเธอนั้นรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากทั้งนี้เมื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

ไม่ได้เธอจึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคนในโลกออนไลน์ให้ช่วยประสานงานแทนข้อความของเธอออกไปเผื่อว่าจะมีคนที่มีอำนาจสามารถที่จะต่อกรกับชายคนดังกล่าวได้และเธอยังบอกด้วยว่าเรื่องนี้ได้มีการคุยกับป้าของเธอซึ่งเป็นภรรยาของผู้ชายคนดังกล่าวแล้วแต่ป้านั้นเข้าข้างสามีตนเองและมองว่าน้องสาวของเธอนั้นเป็นคนไปเข้าหาสามีของตนเองก่อน เธอจะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดีเพราะกลัวน้องจะไม่ปลอดภัยนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ufabet สมัครสมาชิก

บ้านพักแถวภาษีเจริญเกิดไฟไหม้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

  วันนี้วันที่ 21 เดือนกรกฎาคมปีพศ2563 ช่วงเวลาประมาณ ห้าโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจบางขุนเทียนได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปากคลองภาษีเจริญและมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุนั้นด้วยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับทางด้านรถดับเพลิงเพื่อเข้าไปทำการดับไฟ

ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นบ้าน 2 ชั้นเมื่อรถดับเพลิงเดินทางไปถึงก็พบว่ากำลังมีไฟลุกไหม้อยู่จึงจนที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานานเกินกว่า 40 นาทีเลยทีเดียวจะสามารถระงับเหตุเพลิงไหม้เอาไว้ได้และเมื่อสามารถจะไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปทำการตรวจสอบสาเหตุของเพลิงไหม้และพบศพของผู้เสียชีวิต 1 คนซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักอยู่บริเวณชั้นล่างของบ้าน

ซึ่งจากการชันสูตรเบื้องต้นสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากการที่สำลักควันโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าตบดังกล่าวนั้นน่าจะนอนหลับอยู่ภายในบ้านพักแล้วไม่รู้ว่าบ้านนั้นเกิดไฟไหม้กว่าจะรู้ตัวก็ทำให้ไฟนั้นเผาไหม้บ้านค่อนข้างเยอะแล้วและค่อนข้างที่จะหนีออกลำบากอาจจะติดอยู่ภายในบ้านพักและได้สูดควันเข้าไปซึ่งอาจจะเกิดจากการสำลักควันจนทำให้สลบและเสียชีวิตจากการถูกเพลิงเผาไม่ได้อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการส่งศพดังกล่าวไปหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งให้การว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นเนื่องจากว่าไม่มีลูกหลานมาคอยดูแลและก็ได้เลิกกับภรรยาไปนานแล้วเจ้าของบ้านมีอายุประมาณ 66 ปีและประกอบอาชีพเป็นคนขายอาหารซึ่งขายเป็นข้าวหมูแดงข้าวหมูกรอบ

ซึ่งในขณะนี้ทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เป็นอดีตภรรยาและลูกๆก็เดินทางมายังจุดเกิดเหตุทางก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่งว่าเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการประมาทของเจ้าของบ้านเองหรือเกิดจากการที่ไฟฟ้าลัดวงจรเพื่อที่จะได้ประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ในครั้งนี้เพลิงไหม้ลุกลามไหม้แค่บ้านที่เกิดเหตุเท่านั้นโชคดีที่ไม่ลุกลามไปไหม้บ้านหลังอื่น

และในเวลาไล่เลี่ยกันช่วงประมาณ 18:00 น ที่ชุมชนคลองเตยก็เกิดเหตุไฟไหม้เช่นเดียวกันซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชุมชนเป็นอย่างมากโดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้พากันไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อช่วยกันดับไฟแล้วซึ่งไปนั้นสามารถดับได้ภายใน 30 นาทีแต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการคำนวณความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าจะมีความเสียหายอย่างไรบ้าง

 

สนับสนุนโดย.  บาคาร่า บิกินี่

เมื่อไหร่จะหมดสักทีกับการที่รุ่นพี่มีสิทธิ์สั่งลงโทษรุ่นน้องได้

         กำลังเป็นประเด็นอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ที่มีเรื่องเด็กนักศึกษาเสียชีวิตในขณะที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจากที่มีการทำกิจกรรมกันที่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการซ้อมการแสดงเชียร์รีดเดอร์ โดยจากข่าวนั้นมีการระบุว่าเด็กที่เสียชีวิตนั้น มีการเต้นไม่ถูกท่า ทำให้ถูกรุ่นพี่ในกองเชียร์ทำโทษด้วยกาให้ออกไปวิ่งรอบสนาม โดยมีหลายกระแสออกมาข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไม่ตรงกันเพราะบางคนว่าสั่งให้วิ่งถึง 8 รอบน้องที่เสียชีวิตจึงช็อก

ในขณะที่เด็กบางคนบอกว่าเด็กที่เสียชีวิตวิ่งได้ไม่ไกลก็เสียชีวิต ซึ่งเรื่องการวิ่งเยอะมากแค่ไหน อาจจะไม่ใช่ประเด็นที่เราจะนำมาพูดกันแต่ที่อยากออกมาพูดก็คือ ในสถานศึกษานั้นควรจะยุติการให้สิทธิ์รุ่นพี่ได้มีโอกาสรังแก รุ่นน้องได้แล้วเพราะ อำนาจที่มหาวิทยาลัยให้กับรุ่นพี่นั้นมีการทำร้ายรุ่นน้องในทุกปีเลยก็ว่าได้

โดยเฉพาะในช่วงที่มีการรับน้อง ต้องมีการบังคับให้น้องทำตาม ไม่ว่าจะเรื่องการแสดงความเคารพที่บางคนแทบจะให้รุ่นน้องคลานเข่าเข้าไปหาเลยก็มี ซึ่งเรื่องของการรับน้องนั้นผู้ปกครองส่วนใหญ่ได้ออกมาเรียกร้องกันหลายรอบแล้วว่าให้มหาวิทยาลัย ยุติการรับน้องจะดีที่สุด เพราะการที่รุ่นน้องเข้าใหม่จะเคารพรุ่นพี่หรือไม่นั้นควรจะขึ้นอยู่กับการวางตัวของรุ่นพี่มากกว่า ว่าทำตัวให้รุ่นน้องเคารพมากแค่ไหน  สำหรับปัญหาการที่รุ่นพี่สั่งลงโทษรุ่นน้องรุ่นแรงแบบนี้ทางมหาวิทยาลัยควรจะออกมาดูแล และควรหามาตรการที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

ซึ่งไม่ควรจะทำเฉพาะมหาวิทยาลัยที่กำลังมีเรื่องกันอยู่นี้เท่านั้น แต่ควรมีการปฏิวัติได้แล้วกับทุกมหาวิทยาลัยและทุกโรงเรียน เพราะไม่ได้ช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์เลย มีแต่ทำให้ผู้ปกครองเกิดความรู้สึกไม่สบายเสียมากกว่า เพราะกลัวว่าลูกของตัวเองไปโรงเรียนแล้วอาจจะได้รับอันตรายจากรุ่นพี่ที่หวังจะแสดงอำนาจใส่รุ่นน้อง จนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายขึ้นได้อย่างที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้  

ทางที่ดีทีสุดเมื่อมีการเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยก็ควรจะมุ่งเน้นไปที่การเรียน ส่วนเรื่องของการทำกิจกรรมหากอยากมีการทำกิจกรรมร่วมกันก็ให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มากกว่าที่จะให้รุ่นพี่คอยควบคุมรุ่นน้องรวมถึงมหาวิทยาลัยควรจะสามารถควบคุมดูแลเด็กได้ในช่วงที่เด็กๆไปทำกิจกรรม หรือการควบคุมไม่ให้เด็กแอบออกไปรับน้องนอกสถานที่ เพราะเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็ไม่มีใครที่จะสามารถรับผิดชอบกับเหตุการณ์ร้ายแรงได้อย่างแน่นอน เพราะคำว่าขอโทษมันไม่สามารถทำให้เด็กคนหนึ่งฟื้นมาจากความตายได้

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

เด็กหญิงนอนเล่นอยู่หลังบ้าน ข้างบ้านขับรถมาจอดเกือบเหยียบเด็ก

          อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้เพราะความประมาทของคนซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทโชคดีที่ไม่ไม่มีใครได้รับอันตรายสำหรับเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นอุทาหรณ์ของคนที่ขับรถว่าควรจะต้องมีการระมัดระวังให้ดีและมองให้รอบคอบซึ่งเรื่องราวนี้มีการโพสต์แชร์กันใน Facebook โดยมีครอบครัวหนึ่งได้มีการนำคลิปจากกล้องวงจรปิดออกมาเปิดเผย

ซึ่งเราจะได้เห็นนาทีระทึกขวัญที่ในขณะที่กล้องวงจรปิดนั้นจับภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเสื่อซึ่งทางผู้โพสต์ Facebook ระบุว่าเด็กดังกล่าวนั้นนอนเล่นอยู่หลังบ้านของตนเองซึ่งโชคดีอย่างมากที่เด็กหญิงคนนั้นไม่ได้นอนหลับจึงทำให้เธอมองเห็นรถที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างเร็วและตรงมาที่ร่างของเธอทำให้เธอสามารถหลบหนีได้ทันท่วงทีทำให้เธอไม่ถูกรถเหยียบเลยในคลิปเราจะเห็นว่าในขณะที่เด็กหญิงนอนเล่นอยู่นั้นอยู่ๆก็มีรถเก๋งคันหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาทางที่เธอนอนทำให้เธอต้องรีบพลิกตัวหนีออกมา

โดยผู้โพส Facebook ระบุว่ารถคันดังกล่าวนั้นเป็นรถของเพื่อนบ้านที่นำเข้ามาจอดซึ่งทางเพื่อนบ้านได้ออกมาขอโทษและบอกว่ามองไม่เห็นเด็กที่นอนอยู่ซึ่งหากใครได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวก็ต้องรู้สึกว่าถ้าหากเราจ้องมองไปข้างหน้าดีๆและเราเป็นคนขับรถย่อมมองเห็นเด็กที่นอนอยู่เนื่องจากว่าสภาพของการหันเหของรถนั้นเป็นลักษณะของการหันหน้าไปหาเด็ก

โดยตรงไม่ได้เป็นการถอยหลังดังนั้นหากเราขับรถแล้วมองไปข้างหน้าโดยไม่วอกแวกกับสิ่งอื่นย่อมจะต้องมองเห็นเด็กที่อยู่ข้างหน้าอยู่แล้วในระยะไกลแต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นการโพสต์แค่เป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆคนที่มีรถขับว่าก่อนจะขับรถออกไปข้างนอกหรือแม้แต่ถอยหลังเข้าบ้านก็ควรจะมีการตรวจสอบให้ดีเสียก่อนโดยควรจะมองกระจกหน้ากระจกข้างและกระจกหลังให้เรียบร้อยเนื่องจากว่าเราไม่รู้เลยว่าบริเวณที่เราจะขับรถไปนั้นจะมีเด็กมาวิ่งเล่นอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังหรือไม่หรือเหตุการณ์นี้ที่เด็กนอนอยู่แล้วเราตั้งใจ

ที่จะขับรถไปต่อตรงที่เด็กนอนซึ่งถ้าหากว่าเด็กคนดังกล่าวนั้นนอนหลับอยู่แล้วเราก็คงจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นนำมาซึ่งความเสียใจให้กับคนขับรถรวมถึงญาติพี่น้องของเด็กเป็นแน่ดังนั้นวันนี้จึงสามารถเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับคนในสังคมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ระบุว่าเกิดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งในรายละเอียดนั้นไม่ได้ระบุเพิ่มเติมว่าสรุปแล้วทั้ง 2 บ้านนั้นได้ทะเลาะกันหรือว่ายังคบกันดีอยู่หรือไม่

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.    ufabet

เราจะรู้ว่าใครเป็นอย่างไรเมื่อมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

     สังคมไทยสมัยนี้เรื่องเงินถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สามีภรรยาเลิกกันก็เพราะเรื่องเงินมามากมายหลายคู่เพื่อนที่คบกันมานานต้องเลิกคบกันก็เพราะเรื่องเงินก็มีหลายคู่เช่นเดียวกันส่วนใหญ่สำหรับเพื่อนฝูงกันนั้นจะเลิกคบกันก็เพราะกันยืมเงินกันนั่นเองเพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะยืมเงินกันแล้วก็ไม่ค่อยจะคืน ในขณะที่สามีภรรยานั้นเลิกกันเพราะมีปัญหาทางด้านการเงินบางคนทะเลาะกัน

พราะมีหนี้สินเยอะเกินไปไม่มีเงินแต่บางคนก็เลิกกันเพราะมีเงินมากเกินไปอย่างไรล่าสุดที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ทนายความช่วยเหลือเนื่องจากว่าเธอออกมาบอกว่าเธออยู่กินกับแฟนหนุ่มซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันเมื่อช่วงต้นปีเธอทั้งคู่เดินทางไปเที่ยวที่วัดแห่งหนึ่งแล้วได้ซื้อล็อตเตอรี่มา 2 คู่ซึ่งเมื่อตรวจรางวัลแล้วพบว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวนั้นถูกรางวัลที่ 1

ภูเขาทั้งคู่ได้เงินมาทั้งหมด 12 ร้านด้วยกันแต่หลังจากที่ได้เงินมาแล้วฝ่ายชายกับเก็บเสื้อผ้าหนีหายออกจากบ้านแล้วไม่ได้ติดต่อเธอเลยซึ่งเธอได้พยายามติดต่อหลายครั้งแต่ฝ่ายชายก็ปฏิเสธการรับสายมาโดยตลอดเพียงเธอมั่นใจแล้วว่าฝ่ายชายนั้นต้องการพบเงินที่ถูกลอตเตอรี่ไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นเธอจึงได้ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายชายนั้น

ออกมาแบ่งเงินส่วนที่ถูกลอตเตอรี่ให้เธอครึ่งหนึ่งสำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ถ้าใครติดตามข่าวจะเห็นว่าฝ่ายชายนั้นได้ออกมาปฏิเสธทุกอย่างโดยบอกว่าเคยอยู่กินกับเธอก็จริงแต่เขาก็มีภรรยาของเขาอยู่แล้วและเขาก็อยู่กับเธอเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นซึ่งเขาได้เลิกรากับเธอไปแล้วก่อนที่เขาจะถูกลอตเตอรี่เอ็งแต่ในวันที่ไปซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกรางวัลที่หนึ่งนั้นเขาแค่ไปเที่ยวด้วยกันเท่านั้น

แต่ไม่ได้คบกันเป็นสามีภรรยาแล้วนั่นเองดังนั้นฝ่ายชายจึงปฏิเสธที่จะให้เงินส่วนแบ่งลอตเตอรี่ดังกล่าวกับเธอยังไงก็ตามนี่คือเหตุผลหนึ่งที่เราจะเห็นได้ตามสื่อต่างๆหรือตามสังคมทั่วไปว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเมื่อมีเงินเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้วร่ำรวยเงินทองแล้วก็มักจะทิ้งอีกคนหนึ่งเพื่อไปหาผู้หญิงคนอื่นนี่ไม่ใช่คู่แรกที่ถูกลอตเตอรี่แล้ว

ทิ้งภรรยาตัวเองแต่ยังมีข่าวก่อนหน้านั้นอีกหลายคู่ที่ถูกลอตเตอรี่แบบนี้และเมื่อรวยแล้วก็ตัดสินใจทิ้งภรรยาของตนเองหรือตัดสินใจทิ้งสามีของตนเองเพื่อไปหาและก็อยู่กับคนอื่นและนี่คือสิ่งที่ทำให้เราเห็นว่าหากมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตแล้วแล้วก็ส่วนใหญ่ก็จะมาทำให้ครอบครัวนั้นได้รับผลกระทบอย่างมากอย่างที่เรารู้กันว่ามีเงินมากก็ทุกข์มากมีเงินน้อยก็ทุกข์มาก

 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet สมัคร

ตำรวจจับกุมแม่แท้ๆ รู้เห็นพ่อเลี้ยงทำร้ายลูกวัย 3 ขวบเสียชีวิต

         จากเหตุการณ์ที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้มีการรับตัวเด็กวัย 3 ขวบมารักษาอาการบาดเจ็บโดยทางครอบครัวของเด็กได้ให้ข้อมูลกับทางโรงพยาบาลว่าเด็กได้รับอาการบาดเจ็บเนื่องจากว่านอนกลิ้งตกจากเตียงแต่  อย่างไรก็ตามเด็กเกิดเสียชีวิตขณะที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและแพทย์ที่ทำการรักษาให้กับเด็กวัย 3 ขวบพบความผิดปกติของร่างกายของเด็กเนื่องจากร่องรอยที่พบตามร่างกายไม่ใช่ร่องรอยของการตกจากเตียงแต่น่าจะถูกทำร้ายร่างกายมา

           ดังนั้นแพทย์จึงได้มีการขออายัดศพเด็กเอาไว้และส่งไปตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่งที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์โดยทางโรงพยาบาลได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ถึงข้อสงสัยของการเสียชีวิตของเด็กจึงสามารถอายัดศพเด็กเอาไว้ได้และสังเกตการณ์ดังกล่าวนั้นเมื่อผลพิสูจน์หลักฐานออกมาปรากฏว่าเด็กถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนำมาซึ่งการจับกุมพ่อของเด็ก

            ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงซึ่งในที่สุดเขาก็สารภาพว่าเขาได้มีการตีเด็กจริงแต่ตอนนั้นเด็ก ไม่ได้มีอาการอะไร มามีอาการตอนที่เอ็งตกจากเตียงจึงได้พามาหาหมอเพื่อรักษา ถึงแม้ว่าทางพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆจะปฏิเสธไม่ได้ทำร้าย ร่างกายของเด็กแต่จากพยานหลักฐานต่างๆก็สามารถเอาผิดพ่อเลี้ยงนำไปซึ่งการจับกุมได้โดยมีพ่อแท้ๆเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

          อย่างไรก็แล้วแต่ผลจากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิงลึกปรากฏว่าในวันที่ 21 เดือนตุลาคมปีพศ2563 เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมแม่ของเด็กอีกคนหนึ่งในข้อหาสมรู้ร่วมคิดโดยมีพยานหลักฐานยืนยันว่าในช่วงก่อนที่เด็กจะถูกส่งตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลและก่อนที่จะเสียชีวิตนั้นขณะที่พ่อเลี้ยงทําร้ายร่างกายเด็กวัย 3 ขวบแม่น่าจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

          แต่ไม่มีการห้ามปรามอีกทั้งตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสอบสวนหาคนกระทำความผิดแม่แท้ๆก็ให้การเข้าข้างพ่อเลี้ยงจึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อได้ว่าเหตุการณ์ทำร้ายเด็ก 3 ขวบนี้พ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆร่วมกันทำร้ายร่างกายเด็กจึงได้มีการเข้าจับกุมตัวแม่แท้ๆเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเช่นเดียวกัน

         จากเหตุการณ์ข่าวในครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าสังคมไทยกำลังอยู่ในสภาวะสังคมที่กำลังป่วยอย่างหนักเพราะขนาดเด็กอายุเพียงแค่ 3 ขวบก็ถูกทำร้ายร่างกายจากคนในครอบครัวซึ่งข่าวการทำร้ายเด็กที่ยังเล็กขนาดนี้ไม่ใช่เพียงแค่ขาวนี้ค่ะเดียวแต่เราสามารถติดตามข่าวเกี่ยวกับเรื่องของเด็กถูกทำร้ายร่างกายได้อยู่เป็นประจำดังนั้นจึงเห็นได้ว่าประชาชนคนไทยในตอนนี้กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพจิตซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากความเครียดเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือควรจะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตของคนในสังคมก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายมากไปกว่านี้

 

สนับสนุนโดย  แทงมวยยกต่อยก

ความลับขององค์กรSCPที่ปิดบังอะไรเราอยู่?

ซึ่งเพื่อนๆหลายคนคงเคยได้ยินตำนานงูยักษ์ตามที่ต่างๆคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมผู้คนทั่วโลกถึงได้มีไอเดียงูดึกดำบรรพ์แบบนี้นั่นมันก็อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าสิ่งเลื้อยคลานตัวนี้มันได้มีอยู่ใต้ทะเลจริงๆและวันนี้เราก็จะมากับอีกหนึ่งเรื่องที่น่าพิศวงใต้ท้องทะเลที่ได้ถูกองค์กรลับSCPเก็บไว้เป็นความลับกันและมันจะเป็นยังไงไปดูกัน

ย้อนกลับไปที่นักประดาน้ำคนนั้นที่จะถูกส่งลงไปใต้รทะเลองค์กรSCPได้รับการร้องทุกข์จากชาวประมงจำนวนหนึ่งถึงเรื่องราวประหลาดที่เขาได้ค้นพบระหว่างการออกเดินเรือคือจะมีซากของปลาทะเลได้ขึ้นมาติดแหงของพวกเขาเป็นจำนวนมากแต่ทว่าเป็นซากที่ไม่ครบ32บางตัวก็มาแค่หัวบางตัวก็มาแค่หาง

นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญของปลาเหล่านี้มันก็ไม่ใช่ปลาที่ตัวเล็กธรรมดาเสียด้วยแต่มันได้เป็นปลาขนาดยักษ์อย่างปลาฉลามหรือว่าซากของปลาวาฬเลยก็ว่าได้และยังได้มีการรายงานอีกว่าเมื่อมีเรือได้แล่นผ่านพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้วก็จะมีชาวประมงเกิดอากาศมึนๆขึ้นมาและบางคนก็มีอาการเมลลอยเหมือนกับว่าเขาลืมว่าตัวเองนั้นเป็นใครไปชั่วขณะ

เนื่องจากนี้ทางองค์กรSCPได้พิจารณษจากคำบอกเล่านี้แล้วเขาก็จะคิดว่ามันจะต้องเป็นอีกหนึ่งสัตว์ร้ายหนึ่งตัวที่มันได้ซ้อนตัวอยู่ในที่แห่งนี้อย่างแน่นอนทางองค์กรจึงไม่รอช้าจัดแจงส่งหน่วยคอมมานโดSCPไปเพื่อทำการสำรวจแน่นอนแล้วว่าการจะมุดลงไปใต้น้ำในครั้งนี้นั้นจะต้องเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายและทางคอมมานโดเขาจะต้องรู้ว่าเขาต้องเผชิญกับความตายอย่างแน่นอน

ดังนั้นสิ่งที่ทางคอมมานโดเหล่านี้ตองเจอกับเป็นเรื่องที่มีความแปลกประหลาดเกินกว่าที่พวกเขานั้นได้คาดกันเอาไว้ขณะที่เรือดำน้ำกำลังดำดิงสู่เบื้องลึกของมหาสมุทรนี้หลายๆคนในหน่วยเริ่มมีอาการกังวลและก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่สบายใจแบบแปลกๆ

ซึ่งพวกเขานั้นได้มีอาการเหมือนกับคนที่มีจิตหลอนแต่ทว่าก่อนที่จะออกมาปฏิบัติการณ์เขาก็ได้รับการเช็คสภาพกันมาแล้วว่าพวกเขานั้นเป็นคนปกติดีและหนึ่งในคนที่มีอาการหนักที่สุดก็น่าจะเป็นทหารผ่านศึกที่มีชื่อว่า ดร.แจ็ค แน่นอนว่าการดำน้ำลงไปในสถานที่ลึกๆเพื่อที่จะให้เจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝันอะไรแบบนี้มาก่อนทางทีมก็น่าจะเกิดอาการหวาดกลัวกันมาบ้างแต่ทว่าทางดร.แจ็คเขาก็ได้เป็นทหารผ่านศึกที่ได้ผ่านภารกิจลับๆขององค์กรนี้มาอย่างโชกโชน

 

สนับสนุนโดย  Royal casino

Body shaming

“อ้วนขึ้นป่ะเนี่ย”

“ทำไมขาใหญ่เหมือนโต๊ะสนุ๊กเลย”

“ผอมเป็นไม้เสียบผีแล้ว”

“หน้ามีแต่รอยสิว”

ประโยคเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราพบเจอกันเป็นอย่างมากในสังคมไทย และมีการใช้กันในวงกว้างทั้งที่ประโยคเหล่านี้ไม่ใช้ประโยคทักทายด้วยซ้ำ แต่ในสังคมไทยกลับใช้ประโยคเหล่านี้เป็นประโยคทักทายผู้อื่น ฟังดูเหมือนปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำทั้งสิ้น เพราะประโยคเหล่านี้เข้าข่ายเป็น Body shaming

แล้ว Body shaming คืออะไร?

Body shaming คือ การวิจารณ์ ดูถูกรูปร่าง หน้าตา สีผิว รูปลักษณ์ของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการล้อเลียน การเปรียบเทียบ จนอาจจะทำให้ผู้อื่นเกิดความอับอาย ส่งผลกระทบถึงจิตใจและทำให้ผู้อื่นเสียความมั่นใจ บางครั้งอาจถึงขั้นทำให้ผู้อื่นรู้สึกบั่นทอนความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองลงไปด้วย การพูดเชิงลักษณะนี้แม้จะเป็นเพียงการล้อเล่น แต่ก็ไม่ต่างจากการล้อปมด้อย การประณามความบกพร่องหรือเหยียดหยามร่างกายของผู้อื่น เพราะมีแต่จะทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่ รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง และที่สำคัญอาจทำให้เกิดเป็นความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจฝังอยู่ในหัวของผู้อื่นได้ 

เราทุกคนต่างรู้ดีว่าในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างมีความบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น แต่เราไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องเอาความบกพร่องของผู้อื่นมาล้อเลียน หรือเอาสิ่งเหล่านี้มาทำให้เป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันโดยเอาประโยคเชิง Body shaming มาทักทายผู้อื่น แล้วยิ่งเป็นการทักทายในที่สาธารณะ ต่อหน้าผู้คนเยอะๆ ยิ่งไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง

มิฉะนั้นแล้วจะทำให้ผู้ถูกกระทำเกิดความอับอายหนักขึ้นไปอีก บางคนถึงขั้นกลัวการไปเจอผู้คนเยอะๆ ไม่กล้าออกไปที่สาธารณะด้วยซ้ำ ถ้าเราไม่อยากเผลอทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่ เราเริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมที่เราคุ้นชินให้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น การเปลี่ยนคำทักทายจากเดิมที่เคยทักทายผู้อื่นด้วยประโยคเชิง Body shaming ให้เป็นประโยคทักทายธรรมดาทั่วไป เปลี่ยนจากการเล่นมุขตลกเกี่ยวกับร่างกายผู้อื่นเป็นการเล่นมุขตลกในเรื่องอีก เปลี่ยนจากการล้อเลียนความบกพร่องในหน้าตา ผิวพรรณ รูปร่างของผู้อื่นเป็นชื่นชม เป็นต้น

การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นนี้นอกจากจะส่งผลดีต่อผู้อื่นแล้วยังส่งผลดีต่อตัวเราด้วย เพราะนั่นจะทำให้เราดูเป็นสุภาพขึ้น เป็นคนที่รู้จักคิดถึงจิตใจผู้อื่น รู้จักคิดก่อนพูด เคยได้ยินประโยคที่ว่า “การที่เราพูดถึงคนอื่นไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนแบบไหน แต่นั่นจะแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนแบบไหน” ถ้าเช่นนั้นแล้วหากเราพูดถึงผู้อื่นในแง่ที่ไม่ได้แสดงว่าผู้อื่นเป็นคนไม่ดี แต่นั่นแสดงให้เห็นได้ว่าเราเองต่างหากที่เป้นคนไม่ดี ถ้าเราไม่อยากเป็นคนที่ดูไม่ดี เราก็ไม่ควรจะทำอะไรที่จะส่งผลให้เราเป็นคนไม่ดี 

เราทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง แต่เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาความบกพร่องของผู้อื่นมาพูดเพื่อกลบความบกพร่องของตัวเอง หรือพูดเพื่อให้เป็นเรื่องตลกขบขัน การจะสร้างความตลกไม่จำเป็นต้องล้อเลียน เหยียดหยาม ดูถูกรูปร่าง หน้าตา รูปลักษณ์ สีผิวของผู้อื่นเลย รวมถึงการพูดเพื่อติเตียนผู้อื่นด้วย พูดเพื่ออยากให้ผู้อื่นปรับปรุงตัว ดูแลตัวเอง เพราะหากเราหวังดีกับผู้อื่นจริงๆ เราไม่จำเป็นจะต้องพูดในเชิง Body shaming ก็ได้ แค่มีคำแนะนำหรือคำพูดที่สุภาพก็ย่อมมีเสน่ห์และน่าฟังมากกว่าแล้ว

 

สนับสนุนโดย  ufabet

มีชีวิตอย่างมีคุณภาพ

ชีวิตที่ดีมีคุณภาพนั้นสามารถสร้างได้ด้วยตัวเองและสามารถช่วยแบ่งปันให้คนรอบข้างด้วย คำว่าชีวิตดีมีคุณภาพไม่ใช่ชีวิตที่เพอร์เฟ็คแต่เป็นชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความพอดีและทำให้เรามีความสุขในทุกๆวันซึ่งชีวิตที่มีคุณภาพนั้นโดยส่วนใหญ่จะขึ้นขึ้นจากตัวเองก่อนหรืออาจจะเกิดขึ้นได้จาคนรอบข้างก็อตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเมื่อเรามีชีวิตอย่างมีคุณภาพแล้วนั้น

เราสามารถแบ่งปันเรื่องราวในการดพเนินชีวิตของเราได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คนในสังคมนั้นมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของตนเองด้วย เพราะเมื่อคนในสังคมหรือคนรอบข้างได้สัมผัสและรับรู้ได้ว่าชีวิตมีคุณภาพนั้นเป็นอย่างไรและมีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไรพวกเขาก็จะเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้

การมีความสุขทางใจและทางด้านร่ากาย สิ่งที่สำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีคือการมีความสุขทางใจ คือการมีจิตใจที่ผ่อนคลายไม่รู้สึกเป็นทุกข์ไม่มีสิ่งไหนมาทำให้เรานั้นต้องรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งความสุขทางใจนั้นก็สามารถทำได้โดยการปล่อยวางได้ถ้าหากเราผล่อวางในสิ่งต่างๆได้นั่นก็จะถือว่าเรานั้นจะสามารถเกิดความสุขทางใจได้แล้วนั่นเอง และที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือความสุขทางด้านร่างกาย เพราะถ้าหากเรามีร่างกายที่ดีแข็งแรงสมบูรณ์ไม่เจ็บไม่ป่วยนั่นก็หมายถึงว่าเรานั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้วนั่นเอง

ความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้าง มีความสัมพันธ์อันดี ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้างเราจะมีมิตรภาพลัสามารถแบ่งปันความสุขและสิ่งอื่นๆให้กันได้ด้วยถือเป็นสิ่งที่เป็นคุณภาพชีวิติย่างหนึ่งดังนั้นการสร้างมิตรและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไวนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรทำและปฏิบัติ

การทำกิจกรรมลการหากิจกรรมทำร่วมกับผู้อื่นบ้าง เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้างนั้นเอง เพราะการทำกิจกรรมก็จะช่วยเป็นการกระชับความสัมพันธ์อีกทางหนึ่งด้วย ทำให้เรารู้จักคนรอบข้างมากขึ้นและเราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ เพื่อเป็นสิ่งที่จะสามารถนำไปต่อยอดในการดำเนินชีวิตได้อีกด้วย

มีการพัฒนาตนเองทั้งด้านความรู้ บุคลิกภาพและสิ่งที่ตัวเองยังบกพร่องอยู่เสมอ คุณภาพชีวิตที่ดีนั้นอบ่างที่บอกว่าไม่ใช่ความเฟอเพ็คแต่เป็นการเมื่อรู้ว่าตัวเองบกพร่องหรือผิดพลาดในสิ่งใดจะต้องมีการพัฒนาและแก้ไขอยู่เสมอเพื่อให้ตัวเรานั้นสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีต่อคนรอบข้างรวมทั้งการเอาชนะตัวเองเพื่อฝึกตัวเอง ถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรที่จะทำให้ชีวิตนั้นมีคุณภาพอาจจเริ่มต้นจากการมองโลกในแง่ดีก่อนก็เป็นสิ่งที่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัครสมาชิก